สระแก้ว – ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สั่งบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานตรวจเข้มโรคระบาดใบด่างในมันสำปะหลัง จากประเทศเวียดนามและกัมพูชา ทะลักเข้าไทย
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายวุฒิไกร ลีวีรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบราชการรอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมีนางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้วร่วมด้วย โดยภายหลังการเข้าสอบถามปัญหาบริเวณหน้าด่านตรวจชายแดนไทย-กัมพูชา และพบช่องโหว่การนำเข้ามันสำปะหลังเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ที่เสี่ยงต่อการติดโรคใบด่าง ที่ระบาดในประเทศเวียดนามและกัมพูชาในขณะนี้อย่างมาก จึงสั่งการให้ประสานงานกับนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแถลงข่าวและเฝ้าระวังติดเชื้อโรคดังกล่าว จากมันสำปะหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์และเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ได้ประสานขอเดินทางข้ามแดนเข้าพื้นที่ชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อพูดคุยปัญหาดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ถึงขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยเจ้าหน้าที่กัมพูชาแจ้งว่า ขณะนี้มีการแจ้งเตือนการระบาดในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย แล้ว อีกทั้งทางการเวียดนามได้ยอมรับว่า มีการระบาดของโรคดังกล่าวจริง จึงจำเป็นต้องหารือร่วมกันในการป้องกันการนำเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากจะส่งผลกระทบทำให้วงการมันสำปะหลังเสียหายทั้งระบบ
ข่าวน่าสนใจ:
นายวุฒิไกร ลีวีรพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดโรคระบาดโรคใบด่างในมันสำปะหลังของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางการของทั้งเวียดนามและกัมพูชายอมรับแล้วว่า มีการระบาดจริง ดังนั้น การนำเข้ามันสำปะหลังมายังประเทศไทย จะต้องมีการตรวจมากขึ้น โดยจะมีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อบูรณาการร่วมกับนายด่านศุลกากร เกษตร พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดน ร่วมกันตรวจสอบการนำเข้ามันสำปะหลังอย่างเข้มงวดหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาการนำเข้ามันสำปะหลังแล้ว ยังมีประเด็นการตรวจราชการอื่น ๆ ในพื้นที่ จ.สระแก้วอีกหลายเรื่อง เช่น การดูแลค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนเร่งด่วน ในเรื่องร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ปัจจุบันมียอดสมัคร 373 ราย ได้รับอนุมัติติดตั้งเครื่อง EDC 167 ราย ยกเลิก 6 ราย และยอดสมัครเพิ่มอีก 58 ราย ได้รับอนุมัติแล้ว 15 ราย ซึ่งมีการจัดอบรมยกระดับให้ร้านค้าประชารัฐไปสู่การเป็นมืออาชีพในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีการตรวจสอบโครงการตลาดประชารัฐ ,การจัดงานจำหน่วยสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด ,ร้านอาหารหนูณิชย์พาชิม และการดูแลราคาสินค้าและบริการ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เป็นต้น
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: