สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดและเครือข่ายงดเหล้าฯ ร่วมกันจับกุมคนขาย ดื่มเหล้าในสถานที่ห้ามขายและห้ามดื่มภายในงานกาชาด จ.สระแก้ว ขณะที่การละเล่นสาวน้อยตกน้ำที่ตั้งอยู่หน้าองค์พระประธานพุทธมณฑลสระแก้ว ส่อไม่เหมาะสม ส่วนกิจกรรมการพนันประเภท 2 ปาโป่งปาเป้า สนนราคาพุ่งสูงถึงราคาดอกละ 20 บาท ผู้ประกอบการอ้างจ่ายค่าที่แพงบูทละ 4 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 15 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ร่วมกับจิตอาสาเครือข่ายงดเหล้า จ.สระแก้ว นำโดยนายสามารถ นิ่มเงิน เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา หรือ Alcohol Watch พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว จับกุมผู้จำหน่ายและดื่มสุราในงานสืบสานวัฒนธรรมเบื้องบูรพาและงานกาชาด จ.สระแก้ว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-20 ก.พ.63 ภายในบริเวณพุทธมณฑลจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย ชายอายุ 37 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว พร้อมของกลาง 6 กระป๋อง และชายอีกคน อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายเครื่องดื่ม พร้อมเบียร์ 42 กระป๋อง , สุรา ยี่ห้อหนึ่ง ขนาด 1 ลิตร 1 ขวด โดยถูกจับกุมดำเนินคดี ตามมาตรา 27 ฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
ทั้งนี้ จิตอาสาเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา หรือ Alcohol Watch กล่าวว่า ทุกวันจะมีการออกรณรงค์เพื่อไม่ให้มีการขายหรือดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานกาชาดฯ เพราะเป็นพุทธมณฑล สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งระหว่างที่ออกเดินรณรงค์ไปในพื้นที่บริเวณงานก็พบกระป๋องเบียร์วางอยู่ จึงสอบถามว่าใครเป็นคนดื่ม ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า นำมาดื่มเอง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเปิดถังแช่เครื่องดื่มดู กลับพบว่ามีการนำมาแช่ไว้จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงจับกุมมาเพื่อดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ค้ารายอื่น ๆ ขณะนี้ นายสามารถ นิ่มเงิน เครือข่ายงดเหล้า จ.สระแก้ว กล่าวว่า กรณีของงานกาชาดฯ มีการประกาศประชาสัมพันธ์ทุกวันว่า ห้ามขายและห้ามดื่ม เพราะผิดทั้งขายในพื้นที่ห้ามขาย คนดื่มเองก็ผิดเพราะมีการดื่มในพื้นที่ห้าม ตามกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีนี้จะถูกปรับรายละ 3,000 บาท หากทำครั้งที่ 2 ก็ถูกปรับอีก 3,000 บาท และทำครั้งที่ 3 ก็ปรับอีก 3,000 บาทและส่งศาลทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ จ.สระแก้ว วันที่ 4 ของงานเริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังพิธีเปิดและอัญเชิญหลวงพ่อทองมาประดิษฐานภายในงานเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพบกิจกรรมและการละเล่นบริเวณด้านหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑลฯ พระพุทธมงคลวิมลบูรพาโสภิต พระพุทธรูปคู่เมืองสระแก้วนั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มผู้เคร่งครัดในพระพุทธศาสนาว่า กิจกรรมสาวน้อยตกน้ำ ซึ่งมีการนำหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยมาทำลักษณะนั่งยั่วยวนให้คนใช้ลูกบอลปาให้ตกน้ำดังกล่าวเป็นเวลาถึง 10 วัน ต่อหน้าองค์พระประธานฯ น่าจะไม่เหมาะสมนัก แม้จะมีม่านเล็กบังไว้ก็ตาม
ส่วนกิจกรรมที่เป็นการพนันประเภท 2 ปาโป่งปาเป้า บิงโกหรือปาหน้าสัตว์ฯ ซึ่งมีการอนุญาตให้เปิดเป็นกรณีพิเศษเฉพาะงานกาชาด โดยกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น พบว่า ชาวบ้านที่นำบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า การปาลูกดอกลูกโป่งในปีนี้มีราคาแพงขึ้นมาก จากเดิมที่ใช้เงินเพียง 20 บาท ได้ลูกดอกถึง 3 ลูก แต่ปีนี้ต้องเสียค่าลูกดอกลูกละ 20 บาทหรือ 3 ลูก 50 บาท ถือว่าแพงขึ้นมาก ซึ่งผู้ประกอบการอ้างว่า เสียค่าที่แพงถึงล็อคละ 40,000 บาท ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบใบอนุญาตและการจ่ายค่าธรรมเนียมการตั้งร้านเข้าหน่วยงานรัฐ มีการเสียค่าธรรมเนียมเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศที่บริเวณบูทกิจกรรมมัจฉากาชาดนั้น พบว่า มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลเป็นจำนวนมากเช่นกัน เพราะมีรางวัลใหญ่ ๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนบริเวณร้านค้าและพื้นที่ขายสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ก็มีคนเข้าจับจ่ายใช้สอยมากเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่ขายสินค้าฟรีสำหรับคนพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งผู้ค้าบอกว่า พอขายได้ พอใจที่มีการจัดพื้นที่ให้คนสระแก้วได้ค้าขายฟรี อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ก่อนจะได้มากันเยอะ ๆ และจัดพื้นที่แบบนี้ให้คนสระแก้วจริง ๆ ทุกครั้งที่จัดงานด้วย
——————————
