สระแก้ว – ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่เปิดงานรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่เกษตร-ตัดอ้อยสดลดมลพิษ ที่แปลงเรียนรู้ของวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอ้อยแปลงใหญ่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ก่อนโรงงานน้ำตาลปิดหีบแค่ 3 วัน
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่เกษตร-ตัดอ้อยสดลดมลพิษ ณ แปลงเรียนรู้ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกอ้อยแปลงใหญ่ บ้านหนองผักหนาม หมู่ 4 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยชูพื้นที่สำหรับทำแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะอ้อย ภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมแบบยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีในการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องจักร ทดแทนแรงงานตัดอ้อยหรือทดแทนการเผา ตั้งแต่การเตรียมดิน ปลูก บำรุงรักษาอ้อย การบำรุงตออ้อย และการตัดอ้อยด้วยรถตัดอ้อย ที่สามารถจัดการเศษวัสดุด้วยเครื่องม้วนใบอ้อย “Zero Waste” โดยมีนายวรพันธ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ,ส่วนราชการสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร หน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายที่ 3 ชลบุรี ภาคเอกชนกว่า 20 บริษัท และเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมประมาณ 500 คน
ข่าวน่าสนใจ:
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- นายกฯ "อิ๊ง" เปิดงานออนซอนกลองยาวชาววาปี สานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกำหนดนโยบายและมาตรการ เพื่อเร่งยกระดับการแก้ไขปัญหา เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการเผาในพื้นที่เกษตร เพื่อเตรียมการเพาะปลูกในฤดูถัดไปและเผาเพื่อเก็บเกี่ยวอ้อย ทำให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละออง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของเกษตรกรเอง รวมทั้งทำให้ดินเสื่อมโทรม ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตลดลง การแก้ไขจึงต้องทำให้เกษตรกรเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหา รวมทั้งมีนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะลดทั้งปัญหามลพิษ ลดทรัพยากรต่าง ๆ เป็นการแก้ไขในระยะยาว ทั้งปัญหาแรงงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังกลุ่มตัวแทนเกษตรกรได้ร่วมกันปฏิญาณตนจะไม่เผาอ้อยเพื่อลดปัญหามลพิษ และนายอลงกรณ์ได้ลั่นฆ้องชัยเปิดงาน และนำคณะร่วมเดินชมนิทรรศการ การแสดงนวัตกรรมแปลงใหญ่อ้อยอัจฉริยะ การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลในการตัดอ้อย การเรียนรู้การปรับระบบการปลูกให้สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อลดปัญหาการเผาก่อนเก็บเกี่ยว โดยแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 4 สถานี ได้แก่ 1.สถานีการเตรียมดิน ปลูก และบำรุงรักษา 2. สถานีบำรุงรักษาตออ้อย 3. สถานีการตัดอ้อยสดด้วยรถตัดอ้อย และจัดการเศษวัสดุด้วยเครื่องม้วนใบอ้อย และ 4. สถานีสำรวจและจัดทำแผนที่การเจริญเติบโต และการพ่นสารป้องกันและกำจัดวัชพืช ด้วยโดรน เป็นต้น
ทางด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า การรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่เกษตร ได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาหมอกควันเป็นปัญหาใหญ่ เพื่อให้เกษตรกรตระหนักและเข้าใจ รวมถึงการสร้างเครือข่ายชุมชนปลอดการเผาได้กว่า 1,600 แห่ง เพื่อเฝ้าระวังอย่างจริงจัง ควบคู่กับการส่งเสริมแนวทางการเกษตรยั่งยืน ซึ่งมีเกษตรกรเข้ามาเรียนรู้เฉพาะปี 63 ถึงกว่า 17,000 ราย หากพี่น้องมีความรู้มีความเข้าใจที่จะจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ จากเดิมที่ใช้วิธีการเผาทำให้เกิดมลภาวะซึ่งเราแนะนำให้ใช้เศษวัสดุใบอ้อยเป็นปุ๋ยและม้วนใบขายให้กับโรงงานชีวมวล และที่สำคัญเรื่องของสุขภาพ ลูกหลาน เพื่อนบ้านก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งปัจจุบันกำหนดโทษการเผามีโทษหนักจำคุกถึง 7 ปี ปรับถึง 1 แสนบาท
“หากเกษตรกรหยุดเผา เค้าจะลดต้นทุนการผลิตได้ ใช้จุลินทรีย์ปรับปรุงบำรุงดิน ลดต้นทุนสร้างความชื้นในดินในฤดูกาลถัดไปได้ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรพยายามแนะนำให้กลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะแปลงใหญ่ ใช้เครื่องจักรที่เหมาะสม หากสามารถรวมกลุ่มกันได้ก็สามารถยื่นขอกู้จาก ธกส.ได้ในอัตราดอกเบี้ยล้านละ 100 บาท เพื่อนำไปซื้อเครื่องจักรที่เหมาะสมกับแปลงของเค้า ซึ่ง ธกส.อนุมัติเงินกู้แล้ว กำลังจะดูว่า เกษตรกรสนใจเครื่องจักรตัวไหนที่เหมาะสมดี” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดสระแก้วมีเนื้อที่เพาะปลูกอ้อยจำนวนมากถึง 550,000 ไร่ มีโรงงานน้ำตาล 2 แห่งในพื้นที่ ประกอบด้วย โรงงานที่ อ.วังสมบูรณ์ มีการเปิดฤดูกาลหีบอ้อยประจำปี 62/63 ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.62 และโรงงานที่ อ.วัฒนานคร เปิดหีบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ซึ่งช่วงระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา เกิดปัญหาการลักลอบเผาอ้อยทุกอำเภอจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนและก่อปัญหามลพิษและฝุ่นละอองอย่างหนัก ซึ่งการรณรงค์ตัดอ้อยสดที่ผ่านมาไม่ได้ผลมากนักเพราะเกษตรกรอ้างว่า จำเป็นต้องลดต้นทุนเพราะราคาอ้อยตกต่ำ กระทั่งมีการเปิดการณรงค์ฯลดหยุดเผาในพื้นที่เกษตร-ตัดอ้อยสดลดมลพิษดังกล่าว ซึ่งจัดงานก่อนที่โรงงานน้ำตาลมีกำหนดหยุดรับซื้อผลผลิตอ้อยเพียงแค่ 3 วัน โดยจะปิดหีบในวันที่ 12 มี.ค.63 นี้
——————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: