สระแก้ว – เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค บุกจับหน้ากากอนามัยขายทางอินเทอร์เน็ตในราคาสูงกว่าราคาควบคุม กลางตลาดอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และร้านรับส่งสินค้าพื้นที่ตลาดโรงเกลือ สามารถยึดของกลางไว้ตรวจสอบ รวมจำนวนเกือบ 7,000 ชิ้น ส่วน สสจ.สระแก้ว ระบุมีรายงานผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค เพิ่มขึ้น 2 ราย รอผลทั้งหมด 3 ราย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ,ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าจับกุมหน้ากากอนามัย ภายในห้องเช่าอากงอาม่า พื้นที่ตลาดอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พร้อมทั้งเชิญตัวผู้ต้องหามาสอบสวน 2 ราย ภายหลังมีการประกาศขายสินค้าหน้ากากอนามัยทางอินเทอร์เน็ตในราคาสูงกว่าราคาควบคุม จึงร่วมกันตรวจยึดของกลาง เป็นหน้ากากอนามัยจำนวนมาก รวมประมาณ 5,000 ชิ้น มาทำการตรวจสอบที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ
โดยชุดจับกุมดังกล่าว ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ครอบครองหน้ากากอนามัย เนื่องจากไม่สามารถแสดงใบอนุญาตนำเข้าได้ รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกว่า ของกลางที่ยึดได้เป็นหน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย เนื่องจากการขายเกินราคามีกฎหมายลงโทษต่างกัน โดยเจ้าของร้านดังกล่าว บอกว่า ซื้อมาในราคา 900 กว่าเหรียญต่อกล่องใหญ่หรือตกกล่องเล็ก 50 ชิ้น กล่องละ 650 บาท
ทั้งนี้ ภายหลังมีการจับกุม พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และนางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบการจับกุมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง เนื่องจากหากตรวจสอบแล้วเป็นหน้ากากกันฝุ่น ก็สามารถขายได้ราคาสูงกว่า 2.5 บาท แต่ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยมีกฎหมายควบคุมที่ราคาไม่เกิน 2.5 บาท นอกจากนี้ หากพบว่า มีการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตามกฎหมายศุลกากรด้วย
ทางด้าน นางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้ร่วมให้ข้อมูล ณ สภ.อรัญประเทศ เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นได้ตรวจยึดหน้ากากอนามัย จำนวนประมาณ 5,000 ชิ้น ซึ่งเป็นหน้ากากที่นำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม จากห้องเลขที่ 30 ภายในอากง อาม่า เกสเฮ้าส์ ถนนราษฎร์อุทิศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเจ้าพนักงาน ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ได้ชี้แจงการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2563 เรื่องการกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย กรณีเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศให้พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบในเบื้องต้น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น เมื่อเวลา 15.00 น. ในพื้นที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 สั่งการให้จัดตั้ง ศปก.สน.สถานีตำรวจภูธรคลองลึก อำนวยการควบคุม ตรวจสอบสินค้า-ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขอนามัย บริเวณหน่วยบริการประชาชนตลาดเทศบาล 3 นำโดย พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ สวป.สภ.คลองลึก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก , พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 12 ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.อรัญประเทศ ,เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว ได้ร่วมกันออกตรวจสอบร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขอนามัย และร้านส่งพัสดุภัณฑ์ บริเวณตลาดเทศบาล 3 จึงได้ร่วมกันตรวจยึดผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยจำนวน 39 กล่อง กล่องละ 50 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 1,950 ชิ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จาก น.ส.ณัฐฏ์ฤทัย ทองหลี อายุ 36 ปี ขณะกำลังส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกค้าในร้าน FLASH HOME อาคาร P 29 ห้อง 487 ตลาดเทศบาล 3
จากการสอบถาม น.ส.ณัฎฐ์ฤทัย ทองหลี ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยทางเฟซบุ๊ก ชื่อ Marketplace โดยติดต่อซื้อกับผู้ขายโดยตรงในราคากล่องละ 600 บาท โดยนัดมาส่งของให้ที่ร้านส่งพัสดุ Flash Home ซึ่งไม่พบคนนำส่ง จากนั้นได้นำ หน้ากากอนามัยแพ็คใส่กล่องส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อในราคากล่องละ 620 บาท ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ได้ส่งให้ลูกค้าแล้วจำนวน 10 ราย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดและเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ถ้อยคำดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง เนื่องจากหากตรวจสอบแล้วเป็นหน้ากากกันฝุ่นที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งสามารถขายได้ราคาเกินกว่า 2.50 บาท แต่หน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมที่ราคาไม่เกิน 2.50 บาท นอกจากนี้หากพบว่า มีการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิด ตามกฎหมายศุลกากรด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับรายงานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2563 ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พบว่า จังหวัดสระแก้วมีรายงานผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค เพิ่มขึ้น 2 ราย รอผลทั้งหมด 3 ราย สรุปข้อมูล ณ วันที่ 14 มี.ค.63 จังหวัดสระแก้วส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 กรณีผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค สะสมจำนวน 19 ราย ไม่พบเชื้อ 16 ราย รอผล 3 ราย หรือสามารถติดตามสถานการณ์โรคโควิด19 ได้จากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้ทุกวัน หรือเพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว
—‐———————–
