เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นายณัฐวุฒิ ศรีเกษม หรือปลัดไอซ์ อายุ 31 ปี ปลัดอำเภอนาด้วง ฝ่ายป้องกัน จ.เลย ถูกระสุนปืนเสียชีวิตปริศนาในรถสีขาว ทะเบียน กฉ-4993 เลย
ขณะเดินทางเข้าตัวเมืองจังหวัดเลย บนถนนสายเลย-นาด้วง ท้องที่ สภ.นาดินดำ อ.เมืองเลย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจท้องที่สรุปว่า เป็นการทำปืนลั่นใส่ตัวเองนั้น ภายหลัง จ่าสิบเอกสุรเจตน์ ศรีเกษม และนางดิษยะรัตน์ ศรีเกษม พ่อและแม่ของปลัดไอซ์ พร้อมด้วยญาติเดินทางไปที่ สภ.นาดินดำ อ.เมืองเลย เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และรับศพปลัดไอซ์ จาก รพ.เลย กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติได้นำร่างไร้วิญญาณของ นายณัฐวุฒิ ศรีเกษม หรือปลัดไอซ์ ปลัดอำเภอนาด้วง จ.เลย ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดใหม่ไทรทอง บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เช้า และจัดพิธีรดน้ำศพในช่วงเวลา 16.00 น. ซึ่งบรรยากาศการตั้งศพและพิธีรดน้ำศพที่วัดใหม่ไทรทอง เป็นไปอย่างเงียบเหงาและเศร้าโศก โดยพิธีรดน้ำศพมี พ.อ.ชาติชาย น้าวแสง รอง ผบ.มทบ.19 และ นายพยุงศักดิ์ พลลุน นายอำเภอนาด้วง จ.เลย และเพื่อนๆ ที่ทำงานเดินทางมาร่วมรดน้ำศพ รวมทั้งยังมี นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ และทหารในมณฑลทหารบกที่ 19 มาร่วมรดน้ำศพกันจำนวนมาก โดยจะตั้งสวดเป็นเวลา 3 คืน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจ 25 ธ.ค.นี้
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุคดีนี้มีการตั้งข้อสังเกตและร้องเรียนผ่านนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ตรวจสอบ กรณีปลัดอำเภอหนุ่มถูกยิงคารถเก๋งส่วนตัว หลังรถเกิดอุบัติเหตุแล้วลงรถไปเจรจากับชาย 2 คน มีคนถ่ายรูป 1 คน แต่ตำรวจเร่งสรุปว่า ปืนลั่นใส่ขมับตัวเองตาย แต่พบรอยเขม่าปืนที่บาดแผลปรากฏชัดเป็นวงรอบบาดแผล ลักษณะคล้ายการจ่อขมับยิงตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ จึงเรียกร้องนายกรัฐมนตรีสั่งการขอให้นิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบยืนยันชันสูตรวิถีกระสุน และรอยบาดแผลว่า ถูกยิงจ่อขมับหรือกระสุนลั่นใส่เอง และให้นายกฯสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมการสอบสวนตามข้อบังคับ มท.ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาปี 2523 และขอให้ดีเอสไอสืบสวนคู่ขนานเป็นคดีพิเศษด้วย แต่ภายหลังบิดาและมารดาของผู้ตายได้รับคำชี้แจงจาก ผกก.สภ.นาดินดำ จ.เลย จึงไม่ติดใจและเชื่อว่าเป็นปืนลั่น พร้อมทั้งตัดสินใจที่จะไม่นำศพลูกชายส่งตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยาแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: