สระแก้ว – เขมรปิดบ่อนวันแรก!! คาดคนไทยทะลักกลับบ้านกว่า 2,000 คน ทหารจับลักลอบมุดรั้ว-ปีนกำแพงข้ามแดน 6 ราย ส่วน จ.สระแก้ว เพิ่มมาตรการเข้มข้นรองรับผู้เดินทางกลับจากกัมพูชา โดยให้ทุกอำเภอเตรียมสถานที่เช่น วัด โรงเรียน หรือรีสอร์ทต่าง ๆ ให้คนเหล่านี้ได้พำนักอยู่ 14 วัน และถูกควบคุมตัวทุกราย
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรงติดต่อระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว เตรียมความพร้อมรับคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศในช่วงเกิดวิกฤตการณ์โรคไวรัสโควิด 19 โดยวันนี้ (1 เม.ย.63 ) ถือเป็นวันแรกที่ทางการกัมพูชาประกาศปิดบ่อนคาสิโนในเมืองปอยเปตอย่างเป็นทางการ โดยที่บริเวณหน้าด่านฯ นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อม นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางลงพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่ทำงานในกัมพูชาเดินทางกลับประเทศด้วย โดยช่วงสายมีคนไทยในกัมพูชาอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารใบรับรองแพทย์และรอคิวตรวจเอกสารหนังสือยืนยันจากสถานทูตไทยและสถานกงสุลไทยฯ เพื่อเดินทางข้ามแดนประมาณ 300-400 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสรุปยอดคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาประเทศจากกัมพูชา ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว รายงานว่า มียอดทั้งหมด 459 ราย ที่ผ่านขั้นตอนการข้ามแดน แบ่งเป็นผู้ใช้หนังสือเดินทางหรือ Passport 278 ราย และหนังสือผ่านแดนหรือบอร์ดเดอร์พาส 181 ราย ซึ่งภายหลังผ่านการคัดกรองแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปที่โรงเรียนบ้านกิโล 2 ต.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อรอญาติมารับไปกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับคนในพื้นที่สระแก้วหรือถ้ามีไข้เกินที่กำหนด หรือรอญาติจากต่างจังหวัดมารับตัว จะนำตัวไปไว้ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.สระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีคนไทยที่มีหนังสือเดินทางหรือ Passport และหนังสือผ่านแดนหรือบอรดเดอร์พาส ที่ทำงานอยู่ฝั่งกัมพูชาจำนวนประมาณ 2,000 คน ไม่รวมคนที่ไม่มีเอกสาร แต่เนื่องจากการสื่อสารไม่ทั่วถึง เรื่องการเปิดให้คนไทยสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้ ส่งผลให้มีคนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดบ่อนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ใช้วิธีลักลอบเข้าประเทศโดยการมุดรั้วและปีนกำแพงข้ามแดนจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 1201 สามารถจับกุมผู้ที่ลักลอบปีนรั้วกำแพงข้างตลาดโรงเกลือเข้าประเทศได้ จำนวน 6 ราย เป็นคนไทย 5 ราย และชาวจีนอีก 1 ราย และถูกนำตัวส่งดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับที่ สภ.คลองลึก ด้วย
นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้เดินทางลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนไทยในกัมพูชาที่จะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 คาดว่า น่าจะมีคนไทยในกัมพูชาที่อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อเดินทางเข้าประเทศอยู่ตอนนี้ประมาณ 3-4 ร้อยคน โดยนายอุ้มเลียเตียะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยเพื่อปรึกษาหารือกับ นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เกี่ยวกับการรับคนไทยกลับประเทศด้วย โดยเริ่มเปิดให้คนไทยเดินผ่านจุดคัดกรองต่างและ ตม.สระแก้ว เพื่อมาขึ้นรถที่เตรียมไว้ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป
รองผู้ว่าราชการนจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยภายหลังพูดคุยหารือกับ ผจว.บันเตียเมียนเจย กัมพูชา ว่าสำหรับวันที่สองของการเดินทางกลับของคนไทยที่ทำงานในบ่อนคาสิโนฝั่งปอยเปต เรามีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากเมื่อวานมีบางคนไม่ได้อยู่ในมาตรการที่ดำเนินการ มีการไปร่วมสังสรรค์ ไปซื้อของและเดินทางไปที่ต่าง ๆ ทำให้วันนี้ทางราชการจึงใช้วิธีการที่รัฐเข้าไปควบคุมคนที่มาจากฝั่งกัมพูชาทุกคน 14 วัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ได้มอบหมายให้ทางอำเภอดำเนินการรับตัวบุคคลไปไว้ในแต่ละอำเภอ แล้วกักกันตัวในพื้นที่ที่อำเภอกำหนด 14 วัน สำหรับนอกเขตจังหวัด ได้ประสานกับผู้ว่าฯ จังหวัดปลายทางรับตัวไปดำเนินการและต้องเอาความรู้สึกของพี่น้องประชาชนมาเป็นตัวกำหนดด้วย
นายณัฏฐชัย กล่าวอีกว่า จากเดิมที่เมื่อวานเราปล่อยให้เค้าไปกักตัวเอง แต่วันนี้เราใช้มาตรการภาครัฐ เช่น จ.สระแก้ว อำเภอทุกอำเภอก็จะไปเตรียมสถานที่เช่น วัด โรงเรียน หรือรีสอร์ทต่าง ๆ ให้คนเหล่านี้ได้พำนักอยู่ 14 วัน และถูกควบคุมตัว โดยมีงบประมาณของราชการดูแลอยู่ระดับหนึ่ง แต่ความสะดวกสบายอาจจะไม่เหมือนอยู่บ้าน แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สระแก้ว ถ้ามีคนของแต่ละอำเภอข้ามมาเท่าไหร่ ก็ต้องมีที่ให้ทุกคนได้เข้าพำนักได้ครบทุกคน โดยวันนี้ ได้นำรถของเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยในการขนส่งคนไทยที่เดินกลับเข้ามาไปยังจุดที่จะมีการคัดแยกไปในพื้นที่ อ.ต่าง ๆ ด้วย
นายไมตรี สวัสดี ชาวอรัญประเทศ จ.สระแก้ว บอกว่า เดินทางเข้าไปทำงานอยู่ในบ่อนคาสิโนฝั่งเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาว่างงานกันประมาณ 1 สัปดาห์เศษ ระหว่างที่อาศัยอยู่ฝั่งปอยเปตช่วงที่ปิดด่านก็เหตุการณ์ปกติ เพียงแต่ทางรัฐบาลกัมพูชาได้สั่งการให้มีการปิดบ่อนคาสิโนทั้งหมด ตนจึงไม่มีงานทำต่อ จึงต้องกลับบ้านในประเทศไทย ตอนนี้รอเพื่อน ๆ กลุ่มเดียวกันที่เข้ามาทำงานด้วย เพื่อเดินทางไปในรถรับส่งคันเดียวกัน โดยเข้าไปทำงานในบ่อนคาสิโนได้ประมาณเกือบ 1 ปี เมื่อไม่มีงานแล้วทุกคนจึงเลือกที่จะเดินทางกลับบ้าน พร้อมทั้งยินดีที่จะปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำพร้อมมีการกักตัว 14 วันตามกฎหมายด้วย
ขณะเดียวกัน น.ส.พิญชญา เย็นใจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 ม.1 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พนักงานบ่อนคาสิโนฝั่งปอยเปต เปิดเผยว่า ทุกคนได้รับผลกระทบจากการปิดบ่อนคาสิโน แต่ทางเจ้าหน้าที่บ่อนก็เรียกทุกคนมาคุยว่า สถานการณ์อย่างนี้ถ้าไม่ปิดเราจะไม่สามารถออกมาได้เลย วันนี้เราจึงต้องดีดตัวออกมา ถ้าเราเกิดติดเชื้อขึ้นมาก็ข้ามประเทศไม่ได้อยู่แล้ว จึงต้องยอมรับผลกระทบ ต้องดูแลตัวเองไว้ก่อน ไม่รู้ว่า ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะรักษาและดูแลเราได้ดีไหม หากเป็นขึ้นมา ครอบครัวจะทำอย่างไร
เธอบอกอีกว่า “ดีใจและรู้สึกโอเค ที่ได้เข้ามาประเทศไทยแล้ว ส่วนที่บ้านได้เตรียมสถานที่รองรับและสถานที่กักตัวไว้ให้แล้ว ให้อยู่คนเดียวในพื้นที่อรัญประเทศ โดยบ้านของตนเองอยู่ห่างไกลจากชุมชน แม่ได้เตรียมบ้านและสถานที่กักตัวพร้อมไฟฟ้าและอื่น ๆ ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จึงอยากฝากถึงคนไทยที่อยู่ในปอยเปตว่า คนที่อยู่ฝั่งโน้นเราไม่รู้ว่าเขาจะดูแลเราไปถึงไหน หากเราเป็นอะไรขึ้นมา คาสิโนเขาจะดูแลเราไปตลอดรอดฝั่งไหม และถ้าเราเจ็บป่วยจะลำบากมาก ตอนนี้ถ้าใครยังไม่ได้ออกมาขอให้ออกมาเถอะอยู่ที่บ้านเราดีกว่า”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกของการเปิดให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศไทย ได้มีคนไทยประมาณ 20 ราย ที่ไม่มีเอกสารยืนยันจากสถานทูตและสถานกงสุลไทยในกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.จะได้ดำเนินการส่งให้เจ้าหน้าที่ สภ.คลองลึก ดำเนินคดีและเสียค่าปรับตามกฎหมายด้วย คาดว่า วันนี้น่าจะมีคนไทยเดินทางข้ามแดนเพื่อกลับประเทศไทยภายหลังกัมพูชาปิดบ่อนคาสิโน จำนวนใกล้เคียงกับการเดินทางกลับเมื่อวานนี้
—————————-
