สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มารอรับคนไทยกลับจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ผ่านทางด่านถาวรบ้านคลองลึกฯ จำนวน 9 คน ส่วนชาวบ้านใหม่ศรีจำปารวมตัวไม่ให้นำกลุ่มเสี่ยงผู้ถูกกักตัวโควิด-19 มาพักที่วัดใหม่ศรีจำปา หวั่นแพร่กระจายเชื้อในพื้นที่
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมคณะฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมารอรับคนไทยที่ทำงานอยู่ในเมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา จำนวน 8 คน ได้เดินทางกลับประเทศไทย ทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยคนไทยที่ยื่นหนังสือขอเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ จำนวน 9 คน แต่ในวันนี้ได้เดินทางกลับมาจำนวน 8 คน ไม่สามารถเดินทางมาได้ 1 คน โดยแจ้งเหตุผลว่า ขอยกเลิกการเดินทางกลับประเทศไปก่อน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้พบปะชี้แจงพูดคุยกับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศว่า จะต้องกักตัวและปฏิบัติตามระเบียบในสถานที่ที่ทางจังหวัดได้จัดไว้ เป็นเวลา 14 วันและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับผู้กักตัวตลอด 14 วัน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจเอกสารและทำการคัดกรองเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเวลา 12.10 น. เจ้าหน้าที่ได้นำคนไทยทั้ง 8 คน เดินทางไปยังสถานที่กักตัว ดังนี้ คนไทยที่มีภูมิลำเนาใน จ.สระแก้ว จำนวน 3 คน คนที่แรก อยู่ อ.อรัญประเทศ กักตัวที่ มารีรีสอร์ท บ.หนองเทา ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว , คนที่ 2 อยู่ อ.เขาฉกรรจ์ กักตัวที่โรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว , คนที่ 3 อยู่ อ.เมืองสระแก้ว และ คนอยู่ กทม.และต่างจังหวัดอีก 5 คน รวม 6 คน กักตัวที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.สระแก้ว ที่ 1 ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้ว ถ้าไม่มีเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID19) ก็จะอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ โดยในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.63) มีคนไทยที่ยื่นหนังสือขอเดินทางกลับประเทศไทย ทางด่านถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีจำนวน 15 คน
นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำหรับคนไทยที่ต้องการกลับมาประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามระเบียบฯ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นคนที่ผ่านการลงทะเบียนเพื่อขอกลับไทยกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทุกคนที่จะกลับเข้าประเทศไทยบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศของจังหวัดสระแก้ว จะต้องมีใบรับรองแพทย์ Fit to Travel และหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ ที่มีการลงนามยินยอมให้กักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการในสถานที่ที่รัฐกำหนด และเมื่อมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองบริเวณจุดผ่านแดน เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจะคัดกรองโดยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากไม่มีไข้ จะกำหนดจุดให้พักรอ เพื่อตรวจเอกสารการเข้าเมือง และถ้าผ่านจุดนี้แล้วจะมีเจ้าหน้าที่รับตัวไปขึ้นรถ เดินทางไปยังสถานที่กักตัวที่จังหวัดสระแก้วกำหนดไว้ ซึ่งจะอนุญาตให้เฉพาะคนไทยที่กลับเข้าประเทศเท่านั้น ส่วนกรณีคนต่างชาติ ยกเว้นเฉพาะนักการทูต หรือผู้ที่มีใบอนุญาตทำงาน และไม่อนุญาตให้แรงงานข้ามชาติเข้าประเทศโดยเด็ดขาด ส่วนแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยก็ไม่อนุญาตให้ผ่านแดน จนกว่าประเทศเพื่อนบ้านจะเปิดด่านพรมแดน
ส่วนที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 11.00 น.ชาวบ้านที่ทราบข่าวว่า ทางราชการจะมีการนำประชาชนกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ไปทำการกักตัวเพื่อรอผลการตรวจ ที่บ้านใหม่ศรีจำปา หมู่ 3 ต.หนองหมากฝ้าย อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ชาวบ้านจึงออกมารวมตัวถือป้ายคัดค้านมีข้อความ “ไม่เอา COVID” บริเวณหน้ากุฏิพระวัดใหม่ศรีจำปา ต.หนองหมากฝ้าย อ.วัฒนานคร เพื่อไม่ให้ทางราชการนำประชาชนกลุ่มเสี่ยงมาทำการกักตัวในสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากชาวบ้านกลัวติดเชื้อโควิดทั้งหมู่บ้าน ซึ่งมีประชาชนประมาณ 60 คน ออกมาชุมนุมคัดค้านไม่ให้ผู้นำหมู่บ้านและทางราชการ นำกลุ่มเสี่ยงกักตัวที่นี่
นางภัทรกร พลศิริ อายุ 42 ปี ชาวบ้านใหม่ศรีจำปา กล่าวว่า ที่ได้เดินทางมาร่วมตัวกันครั้งนี้ เพื่อคัดค้านที่ทางราชการและผู้นำหมู่บ้านที่จะนำกลุ่มเสี่ยงมากักตัวที่นี้ ที่จะนำคนมากักตัวซึ่งเป็นคนไทย ที่มาจากประเทศกัมพูชา ดังนั้นหมู่บ้านใหม่ศรีจำปาทุกคนไม่ต้องการกลุ่มเสี่ยงมากักตัวที่นี่ ชาวบ้านทั้งหมดก็ไม่ยอม ที่จะยอมได้อย่างเดียว คือคนในหมู่บ้านนี้เท่านั้นที่ต้องกักตัวพักในพื้นที่นี้ได้ ส่วนมาจากที่อื่นไม่ยอมรับ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อได้ สถานที่ราชการมีมากมายไม่ว่าหน่วยงาน ตำรวจ ทหาร ปกครอง สามารถนำผู้ต้องสงสัยไปกักตัวได้ แต่จะมาให้ใช้พื้นที่นี้กับชาวบ้านอีก กลุ่มหมู่บ้านของเราผลิตสินค้าโอทอป ยังขายไม่ได้ก็จะอดตายอยู่แล้ว เงินเยียวยาคนละ 5,000 บาทก็ยังไม่ได้ แถมจะเอาโรคภัยมายัดเยียดให้พวกเราอีก
ทางด้าน นางจำเนียร พรอินทร์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านใหม่ศรีจำปา กล่าวว่า ผู้นำหมู่บ้านและทางราชการไม่ได้ได้มาประชุมชี้แจงชาวบ้านเลยอยู่ ๆ ก็มาจัดสถานที่ไว้รับกลุ่มเสียงมากักตัวที่นี่ พวกเราจึงได้ออกมาคัดค้านไม่เอา แถมกลุ่มผู้นำยังมาข่มขู่อีกว่า ถ้าใครไปลงชื่อคัดค้านที่ไม่ให้กลุ่มเสียงมากักตัวที่นี่ จะถูกตัดสิทธิ์ทุกอย่างที่มีการช่วยเหลือทางราชการ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายณัฏฐพงษ์ พัฒนรัฐ นายอำเภอวัฒนานคร ชี้แจงว่า เพียงแต่เป็นสถานที่เตรียมการไว้เท่านั้น กลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงเป็นเพียงกลุ่มเฝ้าระวังเท่านั้น ขอให้ชาวบ้านเห็นใจผู้นำหมู่บ้านด้วย
————————
