ปราจีนบุรี – ผู้ป่วยโควิดฯ กลับบ้านอีก 2 คน ส่วนไทยฟู้ดส์บริจาคเงินช่วย รพ. ด้านชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิดฯ 18 ชีวิตเดือดร้อน วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.63 ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พ.อ. สุรวิชญ์ แดงจันทร์ รองผอ. รมน.ปราจีนบุรี เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ป่วย (COVID-19) ที่ได้รับการรักษาหายแล้ว เพื่อตัวส่งกลับบ้าน จำนวน 2 ราย โดยทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แจ้งว่าจะมีการส่งผู้ป่วย (COVID-19) กลับบ้าน จำนวน 2 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายแล้ว จากที่เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 63 (รายที่ 4) กับวันที่ 6 เมษายน 2563 (รายที่ 7) เป็นผู้ป่วยยืนยันของจังหวัดปราจีนบุรี มีการรักษาและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จนอาการเป็นปกติ ไม่มีไข้ และตรวจไม่พบเชื้อ จึงได้กำหนดส่งตัวกลับบ้าน ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยล็อตที่ 3 ที่โรงพยาบาลได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 2 ล็อต จำนวนทั้งหมด 4 ราย ที่กลับบ้านไปแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนที่ห้องประชุมชั้น 4 รพ.กบินทร์บุรี นายแพทย์โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี และทีมแพทย์พยาบาล รับมอบเงินบริจาคของบริษัทเอกชน เพื่อใช้สำหรับซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และพัฒนา รพ.ในการดูแลผู้ป่วยในการบริจาคเงินในครั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัทไทยฟู้ดส์อาหารสัตว์ บริจาคเงิน 500,000 บาท ,คุณทัศนัย อริยสัจกูล บริจาคเงิน 10,000 บาท ,คุณนงค์เยาว์ นักร้อง 10,000 บาท ,บ.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ บ.ทีเอ็ม โปรเฟสชั่นแนล จำกัด บริจาค 10,000 บาท ,บ.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ อทิตยา 2017 บริจาค 10,000 บาท ,บ.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ ฟูจิมิน จำกัด 10,000 โดย ผจก.ไทยฟู้ดส์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ทางบริษัทและในกลุ่มเห็นว่าทาง รพ.มีความจำเป็นต้องจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นอย่างมากที่จะนำมาช่วยเหลือผู้ป่วย จึงมีนโยบายที่จะมอบเงินให้ทาง รพ.เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วไป
ทางด้าน นายแพทย์โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าฯ ทางรพ.กบินทร์บุรีได้รับการสนับสนุนจากเอกชน เพื่อใช้สำหรับซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และในการดูแลผู้ป่วย ทาง รพ.ขอขอบพระคุณท่านและพนักงานในบริษัท ซึ่งจะนำเงินบริจาคนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามเจตนารมย์ของท่านต่อไป
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า ที่บ้านเลขที่ 152 ม.7 ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีว่า มีครอบครัวหนึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกัน 18 คน ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ตกงาน ฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป อาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการ ซื้อข้าวกิน ขณะนี้เงินเบี้ยยังชีพคนพิการถูกใช้หมดแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 18 คน บ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม มีการแบ่งกั้นเป็นห้อง ๆ ด้วยเศษผ้า เศษไม้อัดเก่า ๆ ทั้งในและนอกตัวบ้าน 5 ห้อง เด็กเล็ก 8 คน คนโตที่เป็นผู้หญิง 8 คน สามีของลูกสาว 2 คน
จากการสอบถาม น.ส.มะลิวัลย์ สีดำ อายุ 18 ปี หนึ่งใน 18 คน ตนเองเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว หลังจากพ่อเสียแม่ก็เลี้ยงลูกมาตามอัตภาพ พาลูก ๆ ทั้งชายหญิง 4 คน รับจ้างทั่วไปในไร่ในสวนและต่างมีครอบครัวกันแล้ว เมื่อหลายปีก่อนแม่ของตนเองไปรับจ้างแบกมัน เกิดอุบัติเหตุล้มจนทำให้กระดูกสะโพกแตก เดินไม่ได้กลายเป็นคนพิการในที่สุด เวลาแม่เดินจะใช้มือสองข้างเท้ากับดินแล้วคลานเดินสี่ขา ลูกชายของพี่สาวอีกคนเกิดมาเป็นคนพิการ อายุ 5 ขวบ โดยครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ทั้งหมด มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อก่อนตนช่วยสามีทำงาน แต่มีลูกคนแรกอายุ 3 เดือน แม่ก็มีสามีใหม่มีลูกอ่อนอีกคน ทุกคนไม่ได้ทำงานแล้ว หลังจากมีเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบาด พี่ ๆ พาครอบครัวกลับมาอยู่ที่บ้านแม่ ไม่มีรายได้อะไรแล้ว ยังดีที่สามีทำงานในอู่ซ่อมรถใกล้บ้านมีรายได้อาทิตย์หนึ่ง 1,200 บาท บางครั้งก็ไม่ถึง เพราะไม่มีรถมาทำสี ในบ้านมีคนแก่ 2 คน คือแม่ของแม่ กับแม่ แม่กับหลานชายลูกชายพี่สาวพิการตั้งแต่เกิดเดินไม่ได้ แต่พอพูดได้เป็นบางคำ บางวันแทบจะไม่มีอะไรให้ลูกหลานกินกัน จึงอยากฝากถึงหน่วยงานของรัฐเข้ามาให้การช่วยเหลือบ้าง เมื่อหลายปีก่อน อบต.เข้ามาช่วยเหลือบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ นายนพดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี ได้นำ อบต. ผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ให้ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วและประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปราจีนบุรี ลงพื้นที่ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วเช่นกัน
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์ ,ลักขณา สีนายกอง
