สระแก้ว – นายอำเภอเขาฉกรรจ์ร่วมกับตำรวจและสาธารณสุขเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ทำกิจกรรมไม่เหมาะสมในพื้นที่ ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หลังพบมีการฝ่าฝืนจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม พร้อมสั่งกักตัว 14 วัน จำนวน 18 คน ซึ่งเดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์ โดยให้แยกอยู่ในที่พัก มี อสม.และเจ้าหน้าที่ปกครองคอยควบคุมดูแล โดยห้ามทำกิจกรรมปฏิบัติธรรมร่วมกันอีก หากฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดจะถูกลงโทษตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิเรก ใหม่มงคล นายอำเภอเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ,นายปราณสุรีย์ อาวอร่ามรัศมิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระแก้ว ฝ่ายปกครอง ,นพ.อิทธิพล อุดตมะปัญญา ผอ.รพ.เขาฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ,ส.ต.ต.พิชิตศักดิ์ พุทธกรณ์ นิติกร อบต.หนองหว้า และฝ่ายปกครอง เดินทางลงพื้นที่สำนักสงฆ์พุทธพัฒนา บ้านฝั่งคลอง หมู่ 25 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เพื่อพูดคุยข้อกฎหมายกับคณะผู้ปฏิบัติธรรมภายในสำนักสงฆ์อีกครั้ง หลังมีการรวมกลุ่มปฏิบัติธรรมและแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้เจ้าคณะอำเภอจะมีคำสั่งให้พระสงฆ์ 2 รูป ที่มาร่วมกิจกรรมกลับต้นสังกัดแล้วก็ตาม โดยภายหลังพูดคุยเสร็จสิ้น ทางนายอำเภอเขาฉกรรจ์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แจ้งให้สำนักสงฆ์ดังกล่าว ห้ามทำกิจกรรมปฏิบัติธรรมร่วมกันอีกตามคำสั่งจังหวัดเนื่องในสถานการณ์โควิด-19 หากฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ส่วนผู้ปฏิบัติธรรมทั้ง 18 คน ที่เดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์และกรุงเทพฯ จะต้องถูกกักตัวห้ามออกจากพื้นที่ 14 วันอย่างเคร่งครัด ถ้าต้องการซื้อสิ่งของใด ๆ ให้แจ้ง อสม.และฝ่ายปกครอง
นายอดิเรก ใหม่มงคล นายอำเภอเขาฉกรรจ์ เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบผู้มาทำกิจกรรมฯ ที่เสี่ยงต่อโรคโควิดฯ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำไปเพราะการเข้ามาร่วมปฏิบัติธรรมโดยนั่งเว้นระยะห่าง 1 เมตร ซึ่งขัดคำสั่งจังหวัด แต่ให้ปฏิบัติธรรมยังที่พักของใครของมัน ซึ่งเขาก็เข้าใจดี หากจะไปซื้อหาอาหารข้างนอก ขอให้ประสาน อสม.ที่ดูแลพื้นที่เป็นผู้ไปซื้อมาให้ ส่วนคนเหล่านี้ที่เดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ก็ต้องมีการกักตัว 14 วัน โดยทุกคนอ้างว่า หนีโรคโควิดฯ ตกงาน ไม่มีงานทำ ตรงนี้มีสถานที่ให้ทำเกษตรได้ ก็จะมาทำเกษตรพอเพียง พร้อมทั้งห้ามจัดกิจกรรมฯที่เสี่ยง เช่น มาร่วมสวดมนต์เด็ดขาด ซึ่งระหว่างนี้หรือหลังจากนี้หากมีข้อสงสัยว่า อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ให้สอบถามไปยังฝ่ายปกครองและสาธารณสุขเสียก่อน ซึ่งหากฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดแอบจัดกิจกรรมอีก หากเรามีหนังสือเตือนแล้ว ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ทางราชการพูดคุยกับทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจและสาธารณสุข ซึ่งแจ้งกับสำนักสงฆ์ดังกล่าว คือ 1.แนะนำให้แยกกันปฏิบัติธรรมในที่พักของตัวเอง และห้ามส่งเสียงรบกวน ซึ่งทุกคนยินยอม ,2. ผู้ที่ถูกสั่งกักตัว จำนวน 18 คน ให้อยู่ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรมฯ เท่านั้น ห้ามออกภายนอกโดยเด็ดขาด โดยให้ประสาน รพ.สต.ในการรับ-ส่งอาหาร และ 3.พบว่ามี ภิกษุณี จำนวน 3 ราย ที่มีเอกสารการบวชถูกต้อง ด้วย
ส่วน น.ส.โชติกา หรือ โชเอ ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์ดังกล่าวมานาน 6 เดือน บอกว่า ตนอยู่กรุงเทพฯ เมื่อมีโควิดฯ จึงไปปฏิบัติธรรมฯ ที่เพชรบูรณ์ และย้ายมาอยู่ที่เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หากผู้หลักผู้ใหญ่ให้กลับก็ต้องกลับ ยินดีปฏิบัติตาม เพราะเข้ามาเพราะรู้จักธรรมะเปิดโลกกรรมบันดาร จากหลวงพ่อทองดี ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็แค่มีการสวดมนต์ไหว้พระปกติ เมื่อนักข่าวมาสัมภาษณ์จึงทำให้ดู เช่น การนั่งวิปัสสนาจะไม่นั่งเฉย ๆ จะมีการสูดลมฟอกลมเข้าออก เพื่อทำให้สุขภาพเราแข็งแรง เหมือนการออกกำลังกายทางด้านลมหายใจ
ขณะเดียวกัน นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอ สาธารณสุข ตำรวจ ลงไปดำเนินการตักเตือน ซึ่งพระที่ไปเข้าร่วมกิจกรรม เจ้าคณะอำเภอได้สั่งให้กลับไปที่วัด โดยลูกศิษย์หากจะปฏิบัติธรรมให้แยกไปทำในแต่ละจุดไป ซึ่งจังหวัดสระแก้วปลอดจากโควิดฯ มา 30 กว่าวัน จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาเพราะข้อกฎหมายห้ามรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูและชี้แจงทำความเข้าใจ มีการคัดกรองวัดไข้อุณหภูมิต่าง ๆ ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม หากมีการดื้อดึงปฏิบัติได้สั่งการให้นายอำเภอเข้าไปย้ำ เพื่อไม่ให้มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากอีก โดยห้ามมีการรวมกลุ่มคนตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้ว
ข่าว-ภาพโดย/อารียา สำราญ, ยุทธนา พึ่งน้อย ทีมข่าวสระแก้ว
