ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่ ปภ. อำเภอ และองค์การบริหารส่วนตำบลลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสลิงตอม่อทับคนงานเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแท่นตอม่อพังถล่ม สายสลิงขาดดีดใส่คนงานภายในบริษัท คอนกรีตแห่งหนึ่ง เลขที่ 122 หมู่ 3 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ท่ออัดแรง เสาเข็ม แผ่นพื้นคอนกรีต บริเวณจุดหล่อเสาเข็มพบเครนขนาดใหญ่สูงจากพื้นกว่า 20 ม. มีหัวแม่พิมพ์หล่อเสาเข็มทำด้วยเหล็กขนาดใหญ่ตกอยู่ สายสลิงขาดกระจาย ใกล้กันพบศพคนงานหญิง อายุ 28 ปี สภาพถูกสายสลิงฟาดใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ นอกจากนั้น ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นชาย 3 ราย หญิง 2 ราย หน่วยกู้ภัยฯ รีบลำเลียงส่งห้องฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งจากการสอบสวนเพื่อนคนงาน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานกำลังนั่งผูกเสาเข็มเหล็ก เพื่อนำขึ้นเครนหล่อเสาเข็ม ระหว่างนั้นคนงานอีกฝั่งได้ชักรอกโดยใช้กว้านสลิงดึงหัวเสาเข็มที่ผูกเป็นแม่พิมพ์เสร็จขึ้นบนเครน เพื่อหล่อและเทคอนกรีต ปรากฏว่า สายสลิงเกิดขาดฟาดกวาดไปทางกลุ่มคนงานทั้ง 5 คน ที่กำลังนั่งผูกเหล็กแม่พิมพ์เสาเข็มอยู่อีกฝั่งอย่างแรง จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งโรงพยาบาล พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายนั้น
ทั้งนี้ นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายบุญศรี จันทร์ชัย นายก อบต.ดงขี้เหล็ก นางมาละนี จินดารัตน์ ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี นางขนิษฐา ตันกุล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี นายศราวุธ นามสง่า หัวหน้าวิชาการแรงงานปฏิบัติการผู้แทนสำนักงานประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่มาดูสถานที่เกิดเหตุบริษัท คอนกรีต จำกัด มีนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา จ.ปราจีนบุรี (สว.)ให้การต้อนรับ โดยนายนรเสฏฐ์ ได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนตำบลดงขี้เหล็ก จัดส่งเจ้าหน้าที่กองช่างและงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าดูแลให้คำแนะนำความปลอดภัยในการใช้งานของอุปกรณ์ โดยมี นางมาละนี จินดารัตน์ รักษาการหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี จัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี ประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี และสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงาน ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี เข้าร่วมในการให้คำแนะนำดังกล่าว
ทางด้าน นายสุรเดช กล่าวว่า บริษัทดำเนินการผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ ท่ออัดแรง เสาเข็ม แผ่นพื้นคอนกรีต มากว่า 20 ปี ตามมาตรฐาน วัสดุอุปกรณ์ใหม่ ไม่ชำรุด เพิ่งมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เนื่องจากสายสลิงขาด และแรงดึงได้ฟาดถูกคนงานที่กำลังนั่งผูกเสาเข็ม โดยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จะได้ให้สวัสดิการและดูแลอย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนการบำเพ็ญกุศลศพ ต้องรอถามญาติ
ขณะเดียวกัน นางมาละนี จินดารัตน์ ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก รอง ผวจ.ปราจีนบุรี ลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุพบวัสดุเป็นของใหม่ ไม่น่าเกิดเหตุแบบนี้ได้ เข้าใจว่า ผู้ประกอบการดูแลตามมาตรฐานในการผลิต หลังเกิดเหตุแล้วได้ให้สวัสดิการคนเจ็บ ตาย ตามสิทธิ์เต็มที่ สำหรับด้านการช่วยเหลือเยียวยา มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี เข้าร่วมให้คำแนะนำและดำเนินการตามระเบียบ โดยส่วนสังกัดกระทรวงแรงงานที่มีภารกิจดูแลคน ความปลอดภัยการทำงาน ทั้งคนไทย-ต่างด้าว ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกฎหมาย เบื้องต้นรับทราบว่า แรงงานเป็นชาวกัมพูชา ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย ยังคงพักรักษาอาการที่ตึกศัลยกรรม จำนวน 3 ราย คือนางวอน วอน อายุ 43 ปี อยู่ศัลยกรรมหญิง นางสุนีย์ อายุ 20 ปี ศัลยกรรมหญิง และนายวี ตึกศัลยกรรมชาย โดยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 1 ราย คือ Mr.THOR NHEM อายุ 41 ปี และเสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย โดยสำนักงานประกันสังคมแจ้งว่า หากนายจ้างขึ้นทะเบียนตามกฎหมายแรงงาน จะได้ขึ้นทะเบียนในการดูแลอุบัติเหตุ บาดเจ็บถึงเสียชีวิต รวมถึงสิทธิ์ทายาทและให้สิทธิในการรักษาพยาบาล ตามกฎหมายด้วย
พ.ต.ต.จุมพล ทฤษฎีสุข สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี กล่าวว่า ในวันนี้จะได้เชิญเจ้าของบริษัท เค.ซี.คอนกรีต จำกัด เลขที่ 122 หมู่ 3 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี มาสอบสวนและตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ห้องเก็บศพ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ศพของนางสาวไทเคน อายุ 28 ปี เป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่มาจากเมืองกำปงจาม ยังคงเก็บรักษาไว้เพื่อรอให้ญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบริษัท KC เริ่มดำเนินธุรกิจโดยก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2512 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนายโค้งก่อสร้าง โดยมีนายมานิต (โค้ง) จิรัฐิติเจริญ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง จนเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับกับลูกค้าและบุคลทั่วไปเป็นอย่างดี ภายใต้เครื่องหมาย KC โดยในยุคที่ 2 นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ บุตรชายซึ่งสำเร็จการศึกษาวิศวกรรมโยธา เมื่อปีพ.ศ.2528 ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจต่อ และธุรกิจได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง,ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงในพื้นที่ภาคตะวันออก กระทั่ง KC ในยุคที่ 3 นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ได้มอบหมายให้ภรรยา คือ นางไพรินทร์ จิรัฐิติเจริญ และบุตรอีก 3 คน มาดำเนินธุรกิจแทน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 จนถึงปัจจุบันธุรกิจเดิมก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้เพิ่มธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอีก เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงธุรกิจ ร้าน 7-11 ร้านกาแฟ อเมซอน Amazon ธุรกิจห้องเช่าและอีกหลายอย่าง โดยมีบริษัทในเครือกว่า 10 บริษัทด้วย
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: