สระแก้ว – พบเกษตรกรผู้เสียหายเพิ่ม กรณีพนักงานสินเชื่อ ธกส.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ยักยอกเงินเกษตรกร พฤติกรรมสุดแสบ ใช้วิธีหวานล้อมเกษตรกรในกลุ่มที่ดูแลให้ฝากเงินชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย ก่อนยื่นกู้ใหม่ เช็คยอดโดนด้วยอีก 1 แสนบาท แม้ชำระแล้วพร้อมดอกเบี้ยแต่หนี้เก่าไม่ลด ซึ่งมียอดผู้เสียหายเพิ่มเรื่อย ๆ รวมกว่า 20 รายแล้ว ด้านคณะกรรมการส่วนกลางลงพื้นที่สอบรายบุคคล พร้อมยินดีเยียวยาเกษตรกรที่ตกเป็นเหยื่อ สั่งให้พักงานแล้ว หากพบความผิดจริงให้ออกสถานเดียว
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 4 มิ.ย.63 นายคำพัน พงษ์จิตภักดี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 306 ม.23 บ้านท่านา ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย นางเสวย ทองจันทร์ อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา เดินทางมาตรวจสอบบัญชีเงินกู้ธนาคาร ธกส.สาขาเขาฉกรรจ์ หลังมีข่าวว่าเพื่อนบ้านหลายรายใน ต.หนองหว้า ถูกเจ้าหน้าที่สินเชื่อรายหนึ่งของธนาคารที่ดูแลเกษตรกรในพื้นที่ ยักยอกเงินต้นและดอกเบี้ยที่เกษตรกรไปชำระหนี้เพื่อยื่นกู้ยอดใหม่ สุดท้ายสองสามีภรรยาก็ต้องตกใจ เพราะยอดหนี้ที่ทางธนาคารแจ้งมาล่าสุด มียอดเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย จำนวนกว่า 300,000 บาท
นายคำพัน บอกว่า ช่วงเดือน ก.พ.63 เป็นหนี้ ธกส.สาขาเขาฉกรรจ์ อยู่ 1 แสนบาท ต้องการจะกู้เพิ่มเป็นยอด 2 แสนบาท จึงนำเงินต้น 1 แสนบาทพร้อมดอกเบี้ยกว่า 5 พันบาท มาติดต่อกับ นายศิวพล เผือกพูลผล พนักงานพัฒนาสินเชื่อ 6 ซึ่งดูแลพื้นที่ ต.หนองหว้า พร้อมกับทำเรื่องยื่นกู้เงินใหม่อีก 200,000 บาท โดยเตรียมชำระเงินต้นเดิมพร้อมดอกเบี้ยด้วย หลังทำเอกสารเสร็จสิ้น ระหว่างเดินลงจากชั้น 2 แผนกสินเชื่อเพื่อไปชำระเงินที่เคาเตอร์ธนาคารที่ชั้น 1 นายศิวพล ได้เดินตามมาและพูดคุยหวานล้อมบริเวณบันไดว่า ให้ฝากตนเองไว้ชำระก็ได้ จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน จึงเชื่อใจและฝากเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไว้กับพนักงาน ก่อนจะนัดหมายให้มาเช็คยอดที่ยื่นกู้อีกครั้งปลายสัปดาห์ กระทั่งเงินกู้ 2 แสนบาทเข้าบัญชีเมื่อวันที่ 13 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เอะใจอะไรว่า ตนเองยังไม่ได้จ่ายเงินต้นเดิม 1 แสนบาท กระทั่งชาวบ้านในพื้นที่มาตรวจสอบบัญชีเพื่อยื่นกู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท ช่วยเหลือโควิด 19 จึงพบว่า ยอดหนี้เดิมไม่ได้มีการชำระ ตนจึงเดินทางมาตรวจสอบบัญชีของตนเองบ้าง และถูกยักยอกเงินไป 100,000 บาทเช่นกัน
ข่าวน่าสนใจ:
นายวรพนธ์ รุ่งฟ้า ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.จังหวัดสระแก้ว พร้อมทีมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายหลังชาวบ้านเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เขาฉกรรจ์ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ได้เดินทางลงพื้นที่ธนาคาร ธกส.ที่เกิดเหตุ โดยกล่าวว่า ได้มีการเชิญชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายทั้ง 14 ราย ยอดเงินกว่า 9 แสนบาท ที่ชาวบ้านไปแจ้งความไว้มาให้ข้อมูลก่อน เพื่อสรุปผลการสอบสวนสำหรับดำเนินการกับปัญหาดังกล่าว โดยยื่นยันกับเกษตรกรว่า หากการสอบสวนพบว่า พนักงานมีการกระทำผิดจริง ทางธนาคารจะต้องเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรแน่นอน ทั้งนี้ ทุกรายยังมีสิทธิ์กู้เงินฉุกเฉินช่วยโควิดฯ ได้เช่นกัน ส่วนพนักงานที่ถูกกล่าวหา แม้จะย้ายไปอยู่ที่สาขาสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทราแล้ว หากพบว่า ผิดจริงโทษสถานเดียวคือ ให้ออกหรือปลดออกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศที่ธนาคาร ธกส.สาขาเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ยังคงมีเกษตรกรเดินทางมาติดต่อธนาคารเพื่อยื่นกู้และชำระเงินเป็นปกติ ส่วนแผนกสินเชื่อยังคงมีเกษตรกรมายื่นกู้และเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่กู้เงินไปแล้ว สามารถมาตรวจสอบยอดหนี้ได้ว่า ถูกพนักงานยักยอกเงินไปหรือยอดหนี้ผิดปกติหรือไม่ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากกรณีนี้แล้วกว่า 20 ราย ซึ่งทางธนาคารอยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ซึ่งพนักงานรายนี้รับผิดชอบใน ต.หนองหว้าอีก 500-600 ราย ทั้งพื้นที่ด้วยว่า มีอีกกี่รายที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวด้วย
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: