สระแก้ว – จเรตำรวจแห่งชาติ บินด่วนลงพื้นที่สระแก้วด้วยเฮลิคอปเตอร์ คลี่ปมยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันสระแก้ว สั่งทีมสอบสวนเข้มสำนวนโดยเฉพาะหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้อง จ่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 ราย ด้าน”บิ๊กโจ๊ก” ผบช.สตม.สั่งชายแดนเข้มห้ามคนร้ายออกนอกประเทศ ติดป้ายหมายจับหน้าด่านทุกด่านแล้ว
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 8 ต.ค.61 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดียิงนักธุรกิจเจ้าของปั๊มน้ำมันกลางเมืองสระแก้ว โดยมี พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พาลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณปั๊มน้ำมัน บนถนนเทศบาล 6 อ.เมือง จ.สระแก้ว โดย พล.ต.อ.สุชาติ สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวนนำหลักฐานการตรวจดีเอ็นเอเส้นผมของผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้และเข้าพักในรีสอร์ทใกล้กับปั๊มก่อนเกิดเหตุ เข้าไปในสำนวนคดีด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้รายงานข้อมูลการสืบสวนสอบสวนคดี โดยเฉพาะจุดที่มีการลั่นไกสังหารผู้ตาย จุดเกิดเหตุ พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการยิงผู้ตายก่อนจะเข้าไปยิงภรรยา จุดที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 และการเก็บรวบรวมหลักฐาน ซึ่งปัจจุบันคืบหน้าไปมากแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุชาติ สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจำลองการยิงด้วยอาวุธปืน .380 เพื่อตรวจสอบว่า เป็นไปตามแนวทางสอบสวนหรือไม่ รวมทั้งกำชับการเก็บหลักฐานรอยเท้าของผู้ก่อเหตุที่พบขณะเข้าไปไล่ยิงภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งพบหลักฐานรอยเท้าชัดเจน นอกจากนั้น ในส่วนของผู้ต้องสงสัยที่มีหลักฐานการเข้าพักในรีสอร์ทใกล้กับปั๊มจุดเกิดเหตุก่อนลงมือยิงนั้น ได้มีการเก็บหลักฐานเส้นผมระหว่างเข้าพักแล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการนำดีเอ็นเอของพ่อแม่นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ และนางธนพร สุขโขจัย ผู้ต้องหา มาตรวจเทียบเคียงได้เลยโดยไม่ต้องรอ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า หลบซ่อนอยู่ที่บ้านของพี่สาวนางธนพร ที่บ้านเลขที่ 17/2 ม.14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ภายหลังลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเสร็จสิ้น พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมเร่งรัดคดี ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อรับทราบรายงานความคืบหน้าคดีและแนวทางการดำเนินการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่นำผังชาร์ทเชื่อมโยงการก่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้มาแสดงด้วย เช่น แผนที่กล้อง CCTV ในคดีจ้างวานฆ่าจากร้านครัวน้องอุ้มอาหารตามสั่ง ตึกส้ม และโลตัสเอ็กซ์เพรส ผังกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดและหมายจับผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม แนวทางการสอบสวน เจ้าหน้าที่พบว่า อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ Beretta .380 เป็นของนายพันศักดิ์ ที่ให้นายนิคม มนต์ศิริ หรือเสี่ยป๊อด อยู่บ้านเลขที่ 333 ม.12 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว ติดต่อหาคนจำนำปืนในราคา 30,000 บาท โดยมีนายปฏิพัทธ์ กอไผ่น้อย หรือ ผู้ใหญ่ตรี ติดต่อเอาปืนมาจำนำ จนกระทั่งมีการก่อเหตุยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจได้เตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มีพยานหลักฐานที่สามารถออกหมายจับเพิ่มได้อีก 2 ราย แต่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งมีหลักฐานเกี่ยวโยงในคดีชัดเจน ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีกรายอยู่ในสำนวนและอยู่ระหว่างพิจารณาตามพยานหลักฐาน เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศพของนายดำรงฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือ”เฮียท๊ง” ที่ตกเป็นผู้จ้างวานฆ่าและได้ฆ่าตัวตายด้วยการเข็นรถวีลแชร์ลงน้ำจนเสียชีวิตในท้องที่ สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ โดยศพตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดสระแก้วพระอารามหลวง อ.เมือง จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น พบว่า ช่วงเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) เวลา 08.00 น.ญาติของเฮียท๊งได้นำร่างของผู้ตายไปฝังไว้ที่สุสานในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แล้ว
ทางด้าน น.ส.ปัทมาภรณ์ วรทัด ลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ยังยืนยันว่าจะยังไม่เผาศพนายประชา วรทัด บิดาจนกว่าคดีจะสิ้นสุด อยากให้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด สำหรับศพของพ่อซึ่งฝากไว้ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ทางญาติก็จะรอไม่ไหวแล้วเพราะสงสารพ่อ อยากฝากสื่อมวลชนที่เสนอข่าวประเด็นชู้สาวว่า อยากให้นึกถึงครอบครัวของผู้สูญเสียด้วย การไประบุว่า เป็นเรื่องชู้สาวทำให้ครอบครัวเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวคนร้ายในคดีนี้ที่คาดว่า อาจมีการหลบหนีออกนอกประเทศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ มีคำสั่งจาก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองคนใหม่ หรือ บิ๊กโจ๊ก ให้ตรวจเข้มเป็นนโยบายเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาเล็ดลอดออกไปได้แม้แต่เส้นทางธรรมชาติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายจับของผู้ต้องหาไปติดไว้ที่บริเวณหน้าด่าน ตม.ทุกด่านด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: