สระแก้ว – จับ”เสี่ยป๊อด” ผู้ต้องหาพัวพันคดียิงเจ้าของปั๊มน้ำมันกลางเมืองสระแก้ว โดยนำตัวไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์และนำตัวมาสอบสวนตลอดทั้งวัน ส่วนตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจโรงแรมจ๊ะจ๋าบังกาโล ที่คนร้ายเข้าพักก่อนออกมาลั่นไกสังหารและจำลองจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ใหญ่บ้านเปิดใจกรณีรับปืนมาจำนำ ระบุมีการโอนเงินให้จริง แต่ก็มาขอปืนคืนจนมีการก่อเหตุฆ่า ล่าสุด ตำรวจเชิญตัวพี่สาวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่ม พร้อมยึดรถยนต์กระบะมาตรวจสอบอีก 1 คัน
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิงเจ้าของปั๊มน้ำมันในซอยโรงเลื่อย ถนนเทศบาล 6 อ.เมือง จ.สระแก้ว ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้เดินทางลงพื้นที่โรงแรมจ๊ะจ๋าบังกาโล ซึ่งถูกระบุว่ากลุ่มคนร้ายที่ลั่นไกสังหาร นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรืองจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและสอบปากคำพนักงานของโรงแรม และนำภาพสเกตคนร้ายมาให้พนักงานโรงแรมดู เพื่อเปรียบเทียบว่า คือ นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้หรือไม่
ทั้งนี้ พนักงานหญิงของโรงแรมฯให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนร้ายเข้ามาพักที่ห้อง 5 ของโรงแรมช่วงดึกตี 4-5 ของวันที่ 30 ก.ย.61 โดยไม่ได้สังเกตใบหน้าชัดเจนว่าเป็นใคร จึงไม่แน่ใจว่าใช่นายพันศักดิ์หรือไม่ เพราะพอมาถึงก็รีบเข้าไปในห้องกันทันที โดย นายประพันธ์ บัวศรี เจ้าของโรงแรมจ๊ะจ๋าบังกาโล ที่มีรั้วติดกับปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ บอกว่า หลังเกิดเหตุยิงเจ้าของปั๊ม โรงแรมมีผลกระทบมาก เพราะคนไม่กล้าเข้าพัก แต่ตนก็ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่าง ซึ่งก็เห็นใจพนักงาน ตอนนั้นเป็นช่วงกะดึกอาจจะไม่ทันสังเกตใบหน้าคนเข้าพักว่า หน้าตาอย่างไร
ขณะที่ นายปฏิพัทธ์ กอไผ่น้อย หรือ “ผู้ใหญ่ตรี” ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว หนึ่งในผู้ที่ถูกระบุว่าเกี่ยวพันกับคดีด้วย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นคนให้ข้อมูลเรื่องกรณี นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ นำปืนมาจำนำ ซึ่งเป็นเพียงการนำปืนมาฝากไว้ เพื่อนำไปจำนำเพราะพวกเขาเดือดร้อน และบอกจะมาไถ่คืนแน่นอนภายใน 7 วัน ซึ่งตนเห็นเป็นคนใหญ่โตระดับนั้น จึงเกิดความกลัวก็รับไว้ แต่ยังไม่ถึง 7 วันก็โทรมาหลายครั้ง คิดว่าแกน่าจะเดือดร้อน จึงเอาหมายเลขบัญชีไปโอนเงินให้ที่ปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ที่รับโอนเงินไปให้ นางธนพร สุขโขจัย 30,000 บาท และหลังจากนั้นนายพันศักดิ์ก็มาขอปืนคืนไป แต่ยังไม่ให้เงินคืน จนเกิดเหตุ
“ตอนนี้ผมอยากขอท่าน ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ขอให้คุ้มครองผมด้วย เพราะน้าป๊อดไปแล้วก็โยนขี้มาให้ผม ผมกลัวโดนเก็บ ผมบอกตรง ๆ ผมตกกะไดพลอยโจร ปืนถูกกฎหมายผมก็มี ตำรวจมาขอดูดข้อมูลจากโทรศัพท์ก็ให้ไปหมดแล้ว อยากได้เอาไป คนรู้ไม่กี่คนเองเรื่องรับจำนำ ขนาดภรรยาผมยังไม่รู้เรื่องเลย ส่วนสายสัมพันธ์กับเสี่ยป๊อดและคดีอื่นยืนยันว่า ไม่มี โดยตนรู้จักเพียงแค่ช่วงที่จะมาขอซื้อดินเท่านั้น” ผู้ใหญ่ตรีกล่าว
สำหรับความคืบหน้าคดีล่าสุด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปบริเวณปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เพื่อจำลองสถานการณ์ยิงผู้ตายหาวิถีกระสุนจากปืนชนิดเดียวกัน และเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งนำกำลังตำรวจไปที่บ้านของ นายปฏิพัทธ์ กอไผ่น้อย หรือ “ผู้ใหญ่ตรี” สวนหนึ่งด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์ผู้ที่พบเห็นผู้ต้องหา บริเวณบ้านของนายนิคม มนต์ศิริ หรือ”เสี่ยป๊อด” ผู้รับเหมาในพื้นที่ พบว่า นายพันศักดิ์ เดินทางมาติดต่อและพูดคุยกับเสี่ยป๊อดหลายครั้งก่อนเกิดเหตุ
โดยเสี่ยป๊อด เกี่ยวข้องกับคดี เนื่องจากนายพันศักดิ์เป็นผู้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ Beretta .380 ที่เป็นของนายพันศักดิ์ ไปให้นายนิคม มนต์ศิริ หรือเสี่ยป๊อด อยู่บ้านเลขที่ 333 ม.12 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว ติดต่อหาคนจำนำปืนในราคา 30,000 บาท โดยมีนายปฏิพัทธ์ กอไผ่น้อย หรือ”ผู้ใหญ่ตรี” รับปืนมาจำนำ
ล่าสุด พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ตำรวจได้ออกหมายจับ”เสี่ยป๊อด”หรือนายนิคม มนต์ศิริ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้เข้าจับกุมตัวนายนิคมเมื่อเวลา 23.00 น.ที่บ้านพักของนายนิคม และนำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ก่อนจะให้ตำรวจคุมตัวไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ตามหมายจับ และมารับตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งในช่วงเวลา 09.00 น.
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ สภ.เขาฉกรรจ์และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายนิคม ถูกนำตัวมาคุมขังไว้จริง คาดว่า หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จะถูกนำมาคุมขังอีก นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนได้เชิญตัว นางวัชรีวรรณ สุขโขจัย พี่สาวของนางธนพร สุขโขจัย ผู้ต้องหาตามหมายจับ อยู่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มาสอบสวนด้วย พร้อมกับยึดรถยนต์กระบะส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ที่นายพันศักดิ์ให้ไปใช้มาตรวจสอบด้วยเช่นกัน
