สระแก้ว – ผบ.กกล.บูรพา ตรวจชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ตลอดแนวตั้งแต่ตาพระยาถึงคลองหาด สั่งเจ้าหน้าที่เสริมแนวเส้นทางลักลอบสกัดกั้นแรงงานชาวฃกัมพูชาหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย สั่งเสริมแนวลวดหนาม 3 ชั้น พร้อมวางสัญญาณกันขโมยและติดตั้งไฟส่องสว่างทุก ๆ จุดในบริเวณต่าง ๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 12 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว เดินทางลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติตามมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบของ กกล.บูรพา โดยมี พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รอง ผบ.กกล.บูรพา และ ฝสธ.กกล.บูรพา ร่วมเดินทางลงพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจาก รอง ผบ.ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 และร่วมประชุมกับ รอง ผบ.ชุดเฉพาะกิจตาพระยา, นายอำเภอตาพระยา ,ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว, รอง ผกก.สภ.ตาพระยา และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ ผบ.กกล.บูรพา ระบุว่า ได้สั่งการให้มีการกำหนดมาตรการร่วมของทุกหน่วยงาน เพื่อบูรณาการการปฏิบัติในการเพิ่มความเข้มงวดสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังมีการจับกุมการลักลอบเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา และกำชับให้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นแรงงานฯ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.ตาพระยา ซึ่งพบการลักลอบบ่อยครั้ง ได้แก่ จุดตรวจ ต.04 บ้านทัพไทย, จุดตรวจ ต.13-14 บ้านร่มไทร-บ้านคลองแผง และ จุดตรวจ ส.38 บ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นช่องทางอนุโลมที่ทาง จ.สระแก้ว เปิดให้มีการผลักดันชาวกัมพูชากลับประเทศในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด- 19
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ธราพงษ์ ยังได้เดินทางลงพื้นที่จุดล่อแหลมที่แรงงานชาวกัมพูชามีการลักลอบเข้าประเทศไทยในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงตลาดโรงเกลือและด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในช่วงเวลากลางคืนด้วย เนื่องจากแรงงานชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมจำนวนมากในพื้นที่ชั้นใน ระบุว่า ลักลอบเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.อรัญประเทศ ที่บริเวณช่องทางธรรมชาติ บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ และบริเวณช่องทางธรรมชาติด้านหลังตลาดโรงเกลือ โดยมี พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 นำพาเข้าตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งทั้งสองจุด เป็นพื้นที่ช่องทางธรรมชาติที่เสี่ยงต่อการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานชาวกัมพูชา เนื่องจากภูมิประเทศเป็นป่าและอยู่ห่างไกลจากชุมชน โดยมีการเสริมแนวลวดหนามหีบเพลงเพิ่มเติมถึง 3 ชั้น พร้อมทั้งวางสัญญาณกันขโมยและติดไฟส่องสว่างทุก ๆ จุดในบริเวณต่าง ๆ ด้วย
————————
