สระแก้ว – ทหารพรานจับกุมชาวกัมพูชามุสลิม จำนวน 26 คน ลักลอบเดินทางจากมาเลเซียมาจนถึงตลาดโรงเกลือ เตรียมลักลอบข้ามชายแดนไปฝั่งกัมพูชา รับสารภาพลักลอบข้ามชายแดนจากมาเลเซียเข้ามาประเทศไทย เพื่อจะกลับประเทศกัมพูชา
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 23 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รอง ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1201 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก ,เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ ร่วมกันลาดตระเวนพื้นที่ตลาดโรงเกลือและพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจร่วมดังกล่าว กำลังลาดตระเวนมาถึงด้านหลังของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดโรงเกลือ พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 26 คน แยกเป็นชาย 7 คน หญิง 12 คน เด็กชาย 1 คนและเด็กหญิง 6 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางจำนวนมาก นั่งพักเหนื่อยอยู่บริเวณด้านข้างธนาคารจึงเข้าไปตรวจสอบเอกสารการเดินทาง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า แรงงานกัมพูชาทั้งหมดมีเอกสารเดินทางครบทุกคน และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าหนังสือเดินทางทั้งหมดมีรอยประทับตราเดินทางจากชายแดนประเทศไทยข้ามไปยังประเทศมาเลเซียในช่วงที่ก่อนจะปิดชายแดน และไม่มีการประทับตราเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด จึงได้ทำการควบคุมแรงงานทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 โดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ยอมรับสารภาพว่า พวกตนเป็นกัมพูชานักถือศาสนาอิสลาม และได้เดินทางจากประเทศกัมพูชาไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อต้นปี 63 ที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางผ่านประเทศไทยถูกต้องทุกอย่าง แต่หลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น งานก่อสร้างที่ทำอยู่ในประเทศมาเลเซียก็ถูกปิดหมด พวกตนจึงตกงานมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จึงชักชวนกันเดินทางข้ามชายแดนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้นั่งรถโดยสารมาลงที่กรุงเทพฯ และได้นั่งรถยนต์ตู้โดยสาร จำนวน 2 คัน จากกรุงเทพฯมาลงที่ตลาดโรงเกลือ เพื่อจะทำการลักลอบข้ามชายแดนไปยังบ้านเกิดประเทศกัมพูชา หลังสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวแรงงานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านคลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป
