สระแก้ว – ชาวบ้าน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องคัดค้านการเปลี่ยนนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว เป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจากนอกพื้นที่ ต่อนายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว เพื่อยื่นหารือต่อรัฐสภา หลังมีการล่ารายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยได้แล้วกว่า 1,300 คน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จ.สระแก้ว ของนายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ พื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ นำโดยนายสมพร ก่อเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ป่าไร่ และชาวบ้านจำนวน 30-40 คน ที่ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการทำอีไอเอของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว จากนิคมสีเขียว เป็นพื้นที่สีม่วงสำหรับรองรับโรงงานไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ที่จะมีการนำขยะจากพื้นที่อื่นมาประกอบกิจการเต็มทั้งพื้นที่ภายในนิคมฯ จำนวนกว่า 5 โรง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เข้าร่วมสังเกตการณ์และดูแลความเรียบร้อย โดยตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อ นายสุรศักดิ์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการนำขยะจากนอกพื้นที่เข้ามาในชุมชนและก่อมลพิษกับชุมชนในอนาคต
ทั้งนี้ นายสมพร ก่อเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ป่าไร่ ระบุว่า โรงงานไฟฟ้าขยะดังกล่าวใช้กากอุตสาหกรรมที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับการทำอีไอเอดั้งเดิมหรือทำประชามิติที่ชาวบ้านยกป่า 679 ไร่ ให้ไปตั้งนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว ชาวบ้าน ต.ป่าไร่ จึงไม่เห็นด้วยที่จะเอาโรงงานไฟฟ้ากากอุตสาหกรรมมาแลกกับป่าชุมชนดั้งเดิม ดังนั้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่สัญญากับชุมชนและลงประชามติว่า จะให้เป็นโรงงานกรีนสีเขียวไร้มลพิษ มาวันนี้จะมีโรงงานไฟฟ้าอาร์ดีเอฟ โดยใช้กากอุตสาหกรรมเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งกากอุตสาหกรรมที่จะเอามาใช้ ชาวบ้านมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งที่จะมีสารพิษหรือกรดด่างบนอากาศ และหลุมฝังกลบ ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษาได้ออกทำอีไอเอและประชุมไปหลายครั้ง ซึ่งไม่เคยแจ้งมาก่อนว่า จะมีหลุมฝังกลบขยะพิษประเภท 101 และโรงไฟฟ้าขยะมากถึง 5 โรงงาน แต่เมื่อสำรวจไปได้ครึ่งทางแล้วจึงมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า เค้าจะเอาโรงไฟฟ้าขยะมาตั้ง 5 โรงเข้ามา พร้อมโรงผลิตแท่งอาร์ดีเอฟ 2 โรง และหลุมฝังกลบอีก 94 ไร่ จนเป็นที่มาของการคัดค้านของชาวบ้านใน ต.ป่าไร่
” เราต้องการให้ ส.ส.สระแก้ว นำเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านไปนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ชาวบ้านได้ตั้งจุดลงลายชื่อคัดค้านมาแล้ว จำนวน 8 วัน มีประชาชนลงชื่อคัดค้านแล้วประมาณกว่า 1,300 คน เพื่อยื่นหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้าดูแลประชาชน สาเหตุเพราะพื้นที่เดิมเป็นป่าชุมชน ซึ่งชาวบ้านมอบให้รัฐบาลทำนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นโรงงานกรีน เหตุผลสั้น ๆ คือ เราไม่ต้องการขยะที่อื่นเข้ามาในชุมชนของเรา” แกนนำชาวบ้านที่คัดค้านฯ ระบุ
นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว เกิดจากนโยบายของรัฐบาล ตอนนี้ประชาชนในเขตพื้นที่ไม่เห็นด้วย โรงงานไฟฟ้าอันนี้เกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากไม่ผ่านการประชาพิจารณ์ของประชาชนและมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก ในเมื่อประชาชนในพื้นที่เขต 3 ผม ได้รับความเดือดร้อน ขอให้ทำหนังสือแจ้งความเดือดร้อนมาให้ตนและร้องไปที่หน่วยงานทุกหน่วยอย่างเป็นทางการ เพราะมีข้อยกเว้นไว้ว่า ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าได้รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์จากประชาชน ก็สามารถที่จะให้ ส.ส.นำเรื่องเข้าสภา เพื่อที่จะเข้าไปปรึกษาหารือกับท่านประธานรัฐสภา แล้วรัฐสภาจะสั่งการลงมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะฉะนั้น ส.ส.เอง สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ทุกกระทรวง ทบวง กรม แต่จะต้องมีการรับการร้องเรียนจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน น.ส.อาภรณ์ ธิบดี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว กล่าวว่า การจัดทำอีไอเอครั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมฯได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้เข้าทำการศึกษาเพื่อให้นิคมฯ สามารถรองรับกิจการที่มีปล่องในพื้นที่ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น โรงงานลำไยอบแห้ง โรงงานปลาเส้น หรืออุตสาหกรรมประเภทอบร้อน สามารถเข้ามาประกอบกิจการได้ จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีไอเอใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ หากประชาชนไม่เห็นด้วยกับโรงงานไฟฟ้าขยะ ก็สามารถระบุในอีไอเอว่า ต้องการให้โรงงานประเภทไหนเป็นโรงงานห้ามตั้งได้ด้วย ทั้งนี้ สำหรับโรงงานไฟฟ้าขยะยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ตั้งในพื้นที่นิคมฯ หากจะตั้งจริงก็ต้องมีการทำจัดทำอีไอเอเฉพาะโรงงานไฟฟ้าฯ แยกออกไปแต่ละกิจการ
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: