ปราจีนบุรี – ครูสาวโรงเรียนเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ใช้เวลาว่าง ทำสวนมัลเบอร์รี่ทำไวน์ไม่พอจำหน่ายให้ตลาดในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครูสาวโรงเรียนบ้านเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ใช้เวลาว่าง ทำสวนมัลเบอร์รี่เนื้อที่ 2 งาน ข้างบ้านของตัวเอง จนเก็บผลผลิตออกสู่ตลาด ไม่พอขาย จึงเดินทางไปยังสวนของครูสาวดังกล่าว ทราบชื่อ “ครูพิศมัย สมมิตร” โดยครูพิศมัย กล่าวว่า เมื่อก่อนพื้นที่ข้างบ้านมีอยู่ 2 งาน ปลูกไม้ผล แต่ไม่ออกผลและตายไป จึงทดลองปลูกมัลเบอร์รี่แทน 300 ต้น ปลูกมาย่างเข้าปีที่ 4 ส่งขายร้านอาหารใกล้บ้าน มัลเบอร์รี่ จะส่งขายในรูปแบบผลสด แช่แข็ง และแปรรูปทำแยม ไวน์ ข้าวเกรียบ ขนมชั้น เปียกปูนและน้ำเชื่อมมัลเบอร์รี่
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อ “ไวน์” การปลูกมัลเบอร์รี่จะทำเป็นซุ้มโดมโน้มกิ่งเข้าหากัน ซึ่งวิธีการปลูกมัลเบอร์รี่จะปลูกเป็น 2 แถวคู่ระยะห่าง 2×3 ม.ให้น้ำทางสายยางที่โคนต้น มีกลุ่มนวัตวิถี มาเยี่ยมชมสวนมัลเบอร์รี่อยู่บ่อย ๆ และคณะครูนักเรียนมาศึกษาดูงาน ไวน์ ขายขวดละ 250 บาท (700 ซีซี) มัลเบอร์รี่จะเก็บได้ เมื่ออายุ 45 วัน เก็บหนึ่งครั้งจะได้ผลมัลเบอร์รี่ราว 100 กก. จะทยอยตกแต่งกิ่งครั้งละ 2 แถว ให้ปุ๋ยหมักน้ำหมักชีวภาพเป็นหลัก ผลสดจะขาย กก. 50 บาท ส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างหลังเลิกสอนหนังสือและวันหยุด ดูแลแปลงมัลเบอร์รี่ อยากที่จะปลูกพืชเกษตรใหม่ ๆ ที่ดีมีประโยชน์ เพื่อเป็นการเรียนการสอนและแปลงสาธิตในชุมชน จึงได้ซื้อต้นพันธุ์มัลเบอร์รี่มาปลูกบนเนื้อที่ 2 งาน มัลเบอร์รี่ จะออกผลผลิตตลอด ถ้ามีการตกแต่งกิ่ง รู้สึกดีใจที่ทำได้ ถือว่า ประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง ของการทำการเกษตรครั้งแรก มัลเบอร์รี่ปลูกไม่ยาก เป็นพืชตระกูลหม่อน ต้องการน้ำพอประมาณ วางท่อสปริงเกอร์ ให้น้ำวันละ 1 ครั้ง
โดยต้นมัลเบอร์รี่ อายุ 4 เดือน ก็เริ่มออกดอกติดผล ต้นหนึ่งสามารถเก็บผลได้ 3-5 ขีด ช่วงต้นเริ่มสาวอยู่และจะออกมากขึ้น ถ้าโตเต็มไว ที่สวนจะทำเป็นแปลงสาธิตและแหล่งเรียนรู้ของนักเด็กนักเรียนและองค์กรอื่น ๆ ต่อไป มัลเบอร์รี่โตเท่านิ้วมือ เมื่อผลสุกจะมีสีม่วงดำ สายพันธ์ที่ปลูกเป็นสายพันธุ์เชียงใหม่ พันธุ์กำแพงแสน ประโยชน์จากมัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือผลหม่อน “ผลมัลเบอร์รี่”หรือผลหม่อน มีสารแอนโทไซยานิน anthocyanin เป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอล Phenol มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และไวรัส นอกจากนี้ ยังพบว่า ในผลหม่อน มีสารประกอบพวก Flavonoid / ฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด มีกรดโฟลิกสูง Folic acid ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญเต็มที่
เธอเล่าว่า หม่อนหรือ ต้นหม่อนในประเทศไทย แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1.ต้นหม่อนที่ใช้ปลูกเอาใบเพื่อเลี้ยงตัวไหม และ 2. ต้นหม่อนที่ปลูกเพื่อกินผล ที่เราเรียกว่า มัลเบอร์รี่ นั่นเอง เดิมทีหม่อนที่ปลูกกินผลจะมี 3 ชนิด ได้แก่ หม่อนขาว หม่อนแดง หม่อนดำ แต่ในปัจจุบันมีการผสมพันธุ์ข้ามชนิด จึงทำให้ต้นหม่อนมีความหลากหลาย พบเจอได้มากกว่า 20 ชนิด และแต่ละชนิดก็จะมีหลายสายพันธุ์ ต้นที่ให้ผลส่วนใหญ่จะเป็นตัวเมีย ระยะตั้งแต่มัลเบอรี่ออกผล จะเริ่มต้นจากมีผลสีขาว ต่อมาจะเป็นสีชมพูเรื่อๆ และสีแดง ตามลำดับ จนพัฒนาเป็นสีม่วงเข้ม และสีดำ ซึ่งเป็นช่วงที่สุกเต็มที่นั่นเอง ส่วนเส้นขนที่ขึ้นอยู่รอบ ๆ มันเบอร์รี่นั้นเรียกว่า เกสร จะติดอยู่ตั้งแต่ตอนผลมีสีขาวจนกลายเป็นสีดำ ลักษณะผลของมัลเบอร์รี่จัดอยู่ในกลุ่มของผลรวม ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากช่อดอกทั้งช่อ รวมกันเป็นผลเดียว แต่สามารถมองเห็นเป็นผลเล็ก ๆ แยกกันอยู่บนแกนของช่อดอก
สรรพคุณของการทานผลมัลเบอร์รี่ หรือผลหม่อน มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งสารประกอบฟีนอลในผลมัลเบอร์รี่ มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และไวรัสช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิตสูงช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญเติบโตได้เต็มที่ ช่วยขับลมช่วยบรรเทาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอช่วยทำให้เส้นประสาทตาดีช่วยบำรุงให้ผมดกดำป้องกันผมหงอกก่อนวัยอันควร ช่วยแก้อาการเมาค้างช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยทำให้เซลล์ประสาทไขสันหลังและเซลล์สมองเจริญเป็นปกติช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และลดสิว ช่วยบำรุงตับและไต เนื่องจากมีวิตามินบี 6 ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ช่วยป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้เล็ก
อย่างไรก็ตาม มัลเบอร์รี่ มีสาร Phytosterol ที่สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ มีรสหวานเย็น ช่วยดับร้อนและช่วยทำให้ผ่อนคลาย ช่วยแก้เกี่ยวกับไขข้อ ข้อเท้าเกร็ง ปวดข้อช่วยบำรุงผิวพรรณ และลดการอักเสบของสิว ผลมันเบอร์รี่มีสรรพคุณเป็นยาระบายอย่างดี โดยผลการวิจัย ยังบอกว่า เมื่อผลหม่อนมีการสุกเพิ่ม จะเพิ่มปริมาณการออกฤทธิ์ก็จะมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และผลมัลเบอร์รี่ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น แยมหม่อน เยลลี่หม่อน ขนมพาย ข้าวเกรียบ ไอศกรีมหม่อน หม่อนแช่อิ่ม หม่อนอบแห้ง ลูกอมหม่อน น้ำหม่อน ไวน์หม่อน เป็นต้น ซึ่งผู้ที่อยู่ใกล้ ๆ จังหวัดปราจีนบุรี ที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ ครูพิศมัย สมมิตร โทรศัพท์ 081-945-1752
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
