X

มวลน้ำไหลทะลักท่วมพื้นที่ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ถนนเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด

สระแก้ว – เกิดฝนตกในพื้นที่ จ.สระแก้วต่อเนื่อง ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ถนนเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น รายงานสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จากผลกระทบพายุดีเปรสชั่นระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2563 พบว่า ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้จากมาตรวัดน้ำฝนหลังที่ว่าการอำเภอวังน้ำเย็นอยู่ที่ 36 มิลลิเมตร สถานการณ์น้ำท่วม มีฝนตกเป็นช่วง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คืนวันที่ 9 ตุลาคม จนกระทั่งเช้าวันที่ 10 ตุลาคม ประกอบกับมีมวลน้ำไหลตามคลองที่ไหลมาจาก อ.คลองหาด และ อ.วังสมบูรณ์ จึงส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมใน ต.ตาหลังใน และน้ำท่วมถนนใน ต.ตาหลังใน ระหว่างหมู่ที่ 2 บ้านหนองปรือ และหมู่ที่ 6 บ้านวังไทร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำสิ่งกีดขวางและป้ายสัญญาณเตือนภัยและแจ้งให้ประชาชนทราบ

ทั้งนี้ นายอำเภอวังน้ำเย็น ยังระบุว่า ขณะรายงานมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ต่ำของหมู่บ้านใน ต.ตาหลังใน ประกอบด้วย หมู่ที่ 2 บ้านหนองปรือ จำนวน 10 หลังคาเรือน หมู่ที่ 6 บ้านวังไทร จำนวน 52 หลังคาเรือน หมู่ที่ 14 บ้านวังเพชร จำนวน 14 หลังคาเรือน ซึ่งทางอำเภอวังน้ำเย็นได้ประสานหน่วยทหารจาก กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าช่วยประชาชนยกของขึ้นที่สูงตั้งแต่ช่วงกลางคืนและช่วงเช้าเป็นต้นมา สำหรับบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ ที่ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ขณะนี้น้ำลดระดับลง เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนปริมาณฝนในพื้นที่มีบ้างเล็กน้อย หากไม่มีฝนตกคาดว่า ไม่เกิน 1-2 วันสถานการณ์น่าจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะเดียวกัน ทางอำเภอวังน้ำเย็นได้จัดกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์และจะรวบรวมความเสียหายรายงานจังหวัดเพิ่มเติมอีกครั้ง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหนองผักหนาม ม.4 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รับมวลน้ำจากลำคลองสาขาของคลองตาหลัง และคลองพระสะทึง ที่ไหลมาจาก อ.คลองหาดและ อ.วังสมบูรณ์ พบว่า น้ำได้ล้นสะพานช่วงเวลาหนึ่งแต่ยังไหลแรง ส่วนเส้นทางเข้าไปที่โรงเรียนบ้านหนองผักหนาม มวลน้ำได้ทะลักล้นถนนสูงกว่า 30-50 ซม. ส่วนบริษัทด้านหน้าโรงเรียนสูงมากกว่า 50 ซม.รถเล็กไม่สามารถแล่นผ่านได้ ทางโรงเรียนแจ้งกับผู้ปกครองว่า หากน้ำยังไม่ลดลงก็จะให้เด็กนักเรียนหยุดเรียนต่อเนื่องหลังจากปล่อยนักเรียนกลับบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ซึ่งน้ำเริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้น

ส่วนพื้นที่ หมู่14 บ้านวังเพชร พบว่า ระดับน้ำยังคงมีระดับค่อย ๆ สูงขึ้นช้า ๆ เพราะน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลมารวมกับ ทำให้เกือบทุกซอยในหมู่บ้านดังกล่าวถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม.บางจุดน้ำไหลแรงอย่างมาก ทหารและเจ้าหน้าที่ อบต.และได้เข้าชาวบ้านเก็บของขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเช่นกัน การสัญจรในซอยยังไม่สามารถสัญจรได้

นางผ่องศรี มะสูงเนิน อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย กล่าวว่า น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้จนท่วมบ้านสูงแค่หัวเข่า ส่วนในโรงเรียนสูงจนรถไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้ พอรู้ว่าฝนเริ่มตกและมีน้ำมาก็เริ่มเก็บของไว้ที่สูง ก็ไม่มีของใช้เสียหายนัก จะมีแต่ไร่และสวนผักที่ปลูกไว้ ถั่ว ข้าวโพด ผักชีฝรั่งก็ถูกท่วมทั้งหมด ส่วนโรงเรียนก็ปล่อยเด็กกลับบ้านครึ่งวัน ให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านก่อนที่น้ำจะหลากเข้าท่วม ซึ่งถ้าน้ำไม่ลดคงจะปิดโรงเรียนไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พื้นที่ ม.6 บ้านวังไทร ซึ่งถือเป็นหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างแนวที่ลำคลองสาขาต่าง ๆ ผ่าน ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเกือบทั้งพื้นที่ ถนนทางเข้าจากบ้านวังบูรพาถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ขณะเดียวกัน ถนนทางเข้าหมู่บ้านจากบ้านหนองปรือ ม.2 ก็ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร เช่นกัน ทำให้การเข้าออกหมู่บ้านทำได้ด้วยความยากลำบาก ขณะนี้ ทาง อบต.ตาหลังใน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสระแก้ว ได้นำเรือท้องแบนมาสแตนบายไว้รอให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ ม.6 พร้อมทำได้จัดตั้งเต็นท์ประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ม.6 ด้วย

—————————–

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"