สระแก้ว – สำนักงานโครงการชลประทานสระแก้ว แจ้งเตือน ด่วนที่สุด!! น้ำล้นตลิ่งเมืองสระแก้ว-เขาฉกรรจ์ 0.50 เมตร หลังปล่อยน้ำจากเขื่อนเฉลี่ยวันละเกือบ 10 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากน้ำเต็มความจุอ่างเก็บน้ำคลองพระสทึง
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 11 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ กษ 0318.13/1042 ส่งถึงนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว นายอำเภอวังน้ำเย็น นายอำเภอเขาฉกรรจ์ และนายอำเภอเมืองสระแก้ว เรื่อง แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำคลองพระสทึง โดยระบุว่า ด้วยวันที่ 8-9 ตุลาคม 2563 ได้เกิดฝนตกหนัก ในพื้นที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ทำให้มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำคลองพระสทึงเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามเอกสารที่ส่งมาด้วย เพื่อรักษาความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำโครงการชลประทานสระแก้ว จึงได้ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองพระสทึง ผ่านอาคารระบายน้ำและอาคารระบายน้ำฉุกเฉิน ปริมาณรวม 116.93 ลบ.ม./วินาที หรือเฉลี่ยเกือบ 10 ล้าน ลบ.ม./วัน หลังเมื่อช่วงวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าอ่างจำนวนมากวันเดียวถึงเกือบ 15 ล้าน ลบ.ม./วัน
“ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในคลองพระสทึงบริเวณอำเภอเขาฉกรรจ์ เพิ่มขึ้นและเอ่อล้นตลิ่ง ในวันที่ 11 ต.ค.63 เวลา 22.00 น.ประมาณ 0.20 เมตร และเวลา 24.00 น.จะเพิ่มขึ้นพร้อมทรงตัวที่ระดับ 0.50 เมตร ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว น้ำจะเริ่มล้นตลิ่ง ในวันที่ 12 ต.ค.63 เวลา 05.00 น. ประมาณ 0.20 เมตร และเวลา 07.00 น.จะเพิ่มขึ้นพร้อมทรงตัวที่ระดับ 0.50 เมตร ทางโครงการชลประทานสระแก้ว จึงเห็นควรให้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมคลองพระสทึง ในเขตอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอเขาฉกรรจ์ และอำเภอเมืองสระแก้ว เพื่อทราบและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่อไป ” ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว ระบุ
ข่าวน่าสนใจ:
- หนาวนี้ไปแอ่วเมืองเจียงฮายกั๋นเต๊อะ! ส่อง 7 อีเวนต์ไฮไลต์ใน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024”
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
- พบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสาว ผมยาวดั่งราพันเซล เผยไว้ผมยาวมานับแต่สมัยเรียน
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “หลินฟา” ฉบับที่ 5 (209/2563) มีผลกระทบถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 โดยเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 พายุ”หลินฟา”อยู่ที่บริเวณเมืองกวางนาม ประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทาด้านตะวันออกของ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประมาณ 350 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคม 2563 มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ อนึ่ง พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 2(ดีเปรสชั่น) เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว มีแนวโน้มจะแรงขึ้นอีกเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) คาดว่า จะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำในช่วงวันที่ 13 – 14 ตุลาคม 2563 จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทางด้าน นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการเตรียมความพร้อม ตามโทรสารกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว แจ้งให้ นายอำเภอ ทุกอำเภอ นายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่ง เตรียมพร้อม ป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 10-14 ตุลาคม 2563 นั้น จึงขอแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมคลองพระสะทึงเพื่อทราบและเตรียมความพร้อมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เช่น ยกสิ่งของขึ้นที่สูง ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุผู้พิการ ให้ปลอดภัย ตรวจตราอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง ให้มีความปลอดภัยเป็นต้น
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: