สระแก้ว- อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เตรียมพิจารณาเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าผ่านสะพานหนองเอี่ยน-สตึงบท ไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเป็นการชั่วคราว ในการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร ตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางเข้าพบ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และนายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว โดยมี นางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ให้การต้อนรับและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบนโยบายแก่ข้าราชการสังกัดกระทรวงพาณิชย์ โดยการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วของอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการพิจารณาใช้ประโยชน์จากการเปิดสะพานหนองเอี่ยน-สตึงบท ไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเป็นการชั่วคราว ในการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร ตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ
ทั้งนี้ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า การเปิดใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะส่งเสริมการค้าชายแดนและเพิ่มช่องทางให้สินค้าจากประเทศไทย ส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และในปัจจุบันเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงมีการผลักดันให้มีการเปิดด่านมากยิ่งขึ้นและสะพานบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบาท จังหวัดสระแก้วนั้นก็เป็นหนึ่งจุดที่มีการผลักดันให้เป็นช่องทางในการขนส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร เพื่อลดความแออัดจากด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า การหารือเพื่อเปิดด่านที่สะพานหนองเอี่ยน-สตึงบท ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อเป็นช่องทางสินค้าไทยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา จำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การค้าชายแดน จึงผลักดันให้มีการเปิดด่าน จุดสะพานหนองเอี่ยนจึงเป็นอีกช่องทางเพื่อลดความหนาแน่นด่านปอยเปต ขณะนี้ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่เท่าที่หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและทุกฝ่าย เห็นชอบให้รีบดำเนินการและเร่งรัดให้มีการเปิดด่านให้เร็วที่สุด แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องประสานกับทางฝั่งกัมพูชาที่เห็นพ้องต้องกันให้มีการเปิดด่านเช่นกัน แต่ยังมีปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค ประเด็นกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับนโยบายไปแล้ว จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่า ปี 2564 น่าจะชัดเจนและเปิดใช้เส้นทางได้
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ยุทธนา พึ่งน้อย
