สระแก้ว – กรมชลประทานเตรียมปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำห้วยยาง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จำนวนเกือบ 40 % กว่า 30 ล้าน ลบ.ม.ลดแรงดันน้ำ เพื่อซ่อมแซมอ่างร้าวและรั่วกลางสันเขื่อน โดยมวลน้ำเริ่มล้นตลิ่งคลองส่งน้ำ เข้าพื้นที่ท้ายเขื่อนแล้ว
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเขื่อนห้วยยาง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เกิดการรั่วซึมและมีน้ำไหลทะลักออกกลางสันเขื่อนตลอดเวลา ภายหลังเกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนช่วงวันที่ 7-21 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างจนเกือบเต็มอ่างที่ระดับ 89 %ของความจุอ่าง จากเดิมแต่ละปีอ่างห้วยยางจะมีน้ำอยู่เพียง 10-40 % เท่านั้น ซึ่งตั้งแต่สร้างเขื่อนเสร็จเมื่อปี 2537 มีน้ำเต็มอ่างเพียง 3-4 ครั้งเท่านั้น ทำให้กรมชลประทานต้องทำหนังสือด่วนแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้มีการแจ้งเตือนการปล่อยน้ำเพื่อแก้ปัญหาการรั่วไหลดังกล่าว โดยนายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ,รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเขื่อน พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผอ.โครงการชลประทานสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณแนวสันเขื่อนห้วยยาง ภายหลังมีการวางกระสอบทรายทำจุดรับน้ำ ที่บริเวณหลังแนวสันเขื่อนและทำท่อระบายน้ำออกเพื่อลดการกัดเซาะ รวมทั้งนำดินเข้าไปถมบริเวณด้านหน้าแนวสันเขื่อนจุดที่พบรอยรั่ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดการรั่วของน้ำได้
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า หลังตรวจพบว่ามีน้ำรั่วซึมออกจากท้ายเขื่อนห้วยยาง จึงได้สั่งการให้นำเครื่องจักร เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเขื่อน ลงพื้นที่ไปซ่อมแซมจุดที่มีการรั่วซึมอย่างเร่งด่วน โดยขั้นแรกสันนิษฐานไว้ 2 แนวทางคือ น้ำซึมลอดจากหน้าเขื่อนผ่านตัวเขื่อน และน้ำซึมลอดผ่านฐานรากเขื่อนไป ซึ่งการแก้ปัญหาด้วยการถมอัดดินไปด้านหน้าเพื่อปิดรอยรั่ว ที่เกิดจากจุดบกพร่องของตัวเขื่อนที่มีน้ำลอด ซึ่งสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น มีน้ำไหลลอดเหมือนเดิม จึงสั่งการให้มีการนำเครื่องมือทางธรณีฟิสิกส์หรือเครื่องเอกซเรย์ มาติดตั้งวัดความต้านทานกระแสไฟฟ้าตัวเขื่อนที่สามารถหาจุดที่น้ำไหลผ่านได้ชัดเจน เมื่อรู้สาเหตุแล้ว จะได้วางแผนการซ่อม หากน้ำไหลลอดจากตัวเขื่อนอาจจะต้องมีการเกาว์ปิดช่องว่างที่น้ำลอด แต่ถ้าเป็นการรั่วจากใต้ฐานเขื่อนก็ต้องปูพื้นให้ยืดออกไปเพื่อปิดฐานรากให้ยืดออกไป
“ขณะนี้เราจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนเพื่อลดแรงดันน้ำในเขื่อน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ระบายออกวันละ 9 แสน ลบ.ม.โดยมีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วแล้วว่า จะมีการระบายน้ำออกให้ติดตามดูว่ามีจุดไหนได้รับผลกระทบบ้างและให้ชลประทานสระแก้ววิ่งตรวจสอบด้วยหากกระทบจะแก้ไขอย่างไรจะได้ประสานกับทางจังหวัดอีกครั้ง และตอนนี้ได้สั่งการให้วางท่อระบายน้ำแบบกาลักน้ำ เพิ่มอีก 20 ชุด เพื่อให้ระบายน้ำได้เพิ่มอีก 9 แสน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่ระบายออกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะลดเหลือเพียง 50% หรือระบายออกประมาณ 30 ล้าน ลบ.ม.” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยยาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 บ้านโคกกราด ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2537 สามารถเก็บกักน้ำได้ 60 ล้าน ลบ.ม. และส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานกว่า 40,000 ไร่ โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ท้ายเขื่อนที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากตัวอ่างฯ ผ่านทางคลองส่งน้ำทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวาและคลองห้วยยาง เพื่อลดระดับน้ำในอ่างฯดังกล่าว เริ่มส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณถนนสาย 3348 ช่วงบ้านโคกมะกอก บ้านโคกแจง ตำบลทัพราช ตำบลตาพระยา ตำบลทัพเสด็จ อำเภอตาพระยา จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบที่อาจะเกิดขึ้น ซึ่งทาง อบต.ทัพราช แจ้งว่า พื้นที่ริมคลองส่งน้ำได้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่ด้านข้างแล้วหลายจุด
ภาพโดย/กู้ชีพ อบต.ทัพราช
—————————-
