สระแก้ว – บรรยากาศการรับสมัครนายก อบจ.และ สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก สมาชิก อบจ.ทั้ง 30 เขต ในพื้นที่ 9 อำเภอ แห่สมัครเนืองแน่นขออาสาเข้ามาเพื่อต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใน อบจ.สระแก้ว มีกองเชียร์เข้าให้กำลังใจแน่น ส่วนอดีตนายกฯและทีมงานคณะใหญ่ยังเก็บตัวเงียบ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเปิดรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ สจ. โดยจัดเตรียมสถานที่ในการรับสมัครที่หอประชุม อบจ.สระแก้ว ส่วนรอบนอกอาคาร อบจ.ด้านหน้า ได้กางเต็นท์สำหรับผู้สมัครและฝ่ายสนับสนุนพร้อมกับจอมอนิเตอร์ถ่ายทอดบรรยากาศภายใน ตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มมีผู้สมัครและกองเชียร์เดินทางมาจนแน่นพื้นที่ ภายหลังเจ้าหน้าที่ชี้แจงขั้นตอนการรับสมัครและจับสลากเบอร์ผู้สมัครตามขั้นตอนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้มีการสมัครตามเบอร์ที่จับได้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น.เป็นต้นไปโดยเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ววันแรก มีผู้มายื่นสมัครแล้ว จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายกฤษณ สุนทรกิจพาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม ได้หมายเลข 1 ส่วน ดร.สมาน บูชารัตนชัย อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลฟากห้วย อ.อรัญประเทศ ได้หมายเลข 2 ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้สมัคร สจ.สระแก้ว มีทั้ง อดีต สจ.และผู้สมัคร สจ.หน้าใหม่ เข้ายื่นใบสมัครคึกคัก อาทิ น.ส.สินมณี มากสาคร เขต 1 อรัญประเทศ ,นายสุวิจักขณ์ นารีรักษ์ บุตรชายของ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น คนรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สมัคร สจ.หน้าใหม่ เขต อ.วังน้ำเย็น ,นายประโยชน์ จันทร์เที่ยง อดีตประธานสภา อบต.วังใหม่ ผู้สมัคร สจ.เขต อ.วังสมบูรณ์ เป็นต้น ขณะเดียวกัน นายทรงยศ เทียนทอง อดีตนายก อบจ.สระแก้ว รวมทั้งผู้สมัครจากทีมงานคณะใหญ่ที่มีแนวโน้มจะลงสมัครแข่งขันเพื่อปรับเปลี่ยน อบจ.สระแก้ว ยังไม่ได้เดินทางมาสมัครในวันแรก โดยการรับสมัครจะมีไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 นี้
นายกฤษณ สุนทรกิจพาณิชย์ ผู้สมัครนายก อบจ.สระแก้ว หมายเลข 1 กล่าวว่า ต้องการเข้ามาร่วมพัฒนาจังหวัดสระแก้ว ให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับจังหวัดอื่น ๆ เพราะอยู่ที่สระแก้วมานาน รู้ว่า จะต้องดูแลพี่น้องประชาชนอย่างไร อย่างทันท่วงที ตอนนี้มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขและพร้อมจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สระแก้วต้องแก้ไขหลาย ๆ เรื่อง อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการคิดเห็นในการพัฒนาจังหวัดสระแก้วร่วมกัน
ส่วน ดร.สมาน บูชารัตนชัย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลฟากห้วย อ.อรัญประเทศ ผู้สมัครนายก อบจ.สระแก้ว หมายเลข 2 กล่าวว่า เคยอยู่ในการเมืองท้องถิ่นมานานพอสมควร คิดว่าจะมีความรู้พอในการบริหารระดับจังหวัดได้ ประกอบกับสภาพการณ์ปัจจุบันและรับทราบจากท้องถิ่นอื่นยังไม่สำเร็จเท่าที่ควรของ อบจ.จึงมีผู้ส่งเสริม มีแนวความคิดว่า อยากให้ตนมาเป็นตัวแทนมาบริหารงาน อบจ.สระแก้ว ตั้งใจที่จะอาสาทำงาน ถ้าพี่น้องเราสนับสนุน ก็จะทำให้เกิดประโยชน์กับ อบจ.ให้สูงสุด
ขณะที่ นายสุวิจักขณ์ นารีรักษ์ บุตรชายของ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ผู้สมัคร สจ.หน้าใหม่ เขต อ.วังน้ำเย็น กล่าวว่า สาเหตุที่มาสมัครเพราะอยากจะเข้ามาพัฒนามาเปลี่ยนแปลง อบจ.สระแก้ว ในฐานะของคนรุ่นใหม่ นำสิ่งใหม่ ๆ การบริหารใหม่ ๆ ที่สั่งสมประสบการณ์มาพัฒนาสระแก้ว จากที่เคยทำในระดับอำเภอก็อยากทำในระดับที่กว้างขึ้นระดับจังหวัด และจะทำเต็มที่อย่างทุกครั้งที่เราเคยทำในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่า ผลสัมฤทธิ์ก็จะออกมาดี
ทางด้าน นายพงษ์เกตุ เติมกิจธนสาร ผอ.กกต.สระแก้ว กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว อยากฝากผู้ที่ลงสมัครศึกษาระเบียบข้อห้ามต่าง ๆ ในการหาเสียง สืบเนื่องจากกฎหมายเปลี่ยนหรือบางเรื่องข้อมูลเปลี่ยนไป เช่น การบริจาคต่าง ๆ ตอนนี้ กกต.ได้ออกระเบียบว่า ห้ามบริจาค ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ วัด สมาคม อะไรก็แล้วแต่ ในช่วงหาเสียงขอให้ได้ระมัดระวัง รวมทั้งกติกาของบ้านเมืองที่ระบุว่า การหาเสียงลักษณะไหนที่ต้องแจ้งหรือให้ข้อมูลกับ กกต.ถ้าสงสัยก็ขอให้สอบถามที่สำนักงาน กกต.ได้ บางเรื่องต้องศึกษาก่อนแล้วค่อยทำหรือบางเรื่องที่ทำไปแล้วผิดพลาดไปแล้วสามารถปรึกษา กกต.เพราะบางเรื่องสามารถแก้ไขได้
ผอ.กกต.สระแก้ว กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไป ฝากในเรื่องของการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยตรวจสอบด้วยว่า เรามีสิทธิ์เลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งใด เพราะบางพื้นที่หน่วยอาจจะไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด19 โดยกระจายผู้มีสิทธิ์แยกหน่วยออกไป จึงขอให้ดูจากหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน และไปใช้สิทธิ์ให้ตรงหน่วยเพราะถ้าคิดว่า เป็นหน่วยเดิม บางทีไปแล้วจะเสียเวลา จึงฝากให้ออกมาใช้สิทธิ์กันมาก ๆ และตรวจสอบมาตรการเดิมเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง หากพบผู้สมัครหรือคนใด ไม่รักษากติกา ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ฝากแจ้ง กกต.ด้วย ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องการทุจริตเข้ามาเพราะยังไม่ได้เปิดตัว แต่น่าจะอยู่ในกติกาเพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้งมาหลายเวที
————————–
