สระแก้ว – สุดเศร้า.. แม่คนตายเปิดคลิปภาพวีดีโอ ขณะลูกชายเกิดอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะที่ขับย้อนศร จนลูกชายคนเดียวเสียชีวิต ผ่านไป 1 เดือนเศษ คดีไม่คืบแถมถูกกล่าวหาประมาทร่วมจนแม่ต้องไปหาคลิปมายืนยัน เตรียมยื่นร้องขอความเป็นธรรมผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด ต้องนำภาพติดหน้าศพลูกชายและผ้าไตร ไปร่วมบวชกับหลานขอเกาะผ้าเหลืองทดแทนบุญคุณและอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.63 นางบุญลาภ ตรีแก้ว วัย 59 ปี ข้าราชการสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมประจำจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยสามี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้นำคลิปภาพวีดีโอเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ บนเส้นทางถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 18 ต.ค.63 บริเวณด้านหน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาควังน้ำเย็น เยื้องกับที่ว่าการอำเภอวังน้ำเย็น โดยมี นายอัครเดช ตรีแก้ว อายุ 21 ปี บุตรชายคนเดียวของเธอ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และเสียชีวิต สมองได้รับบาดเจ็บรุนแรง โดยเธอเป็นผู้ไปเสาะหาคลิปวีดีโอดังกล่าวมาด้วยตนเอง มีอาจารย์ของเด็กที่เสียชีวิตให้ความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุได้ 2 วัน ซึ่งลูกชายที่เสียชีวิตถูกกล่าวหาว่า เป็นฝ่ายประมาทร่วมในอุบัติเหตุดังกล่าว ก่อนจะนำคลิปภาพดังกล่าว เผยแพร่ทางเวปไซด์ยูทูป https://youtu.be/GEispfmbw18 ไว้เพื่อเป็นหลักฐานด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
นางบุญลาภ เล่าว่า ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่ปรึกษาของลูกที่ตาย ช่วยเสาะหาคลิปวีดีโอเพื่อมายืนยันว่า ลูกชายไม่ได้ผิด แต่คดีก็ไม่คืบหน้า อยากให้ร้อยเวรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทาง ผกก.ก็ให้ความอนุเคราะห์อยู่ ไม่อยากไปเอาเรื่อง แต่ด้วยเงื่อนเวลาทำให้เราเสียโอกาส เพราะนานเกินไปจนทำอะไรไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตามเรื่องให้เรา เพราะคดีไม่มีความก้าวหน้าเลย ผลจากการชันสูตรแต่ต้น บอกว่า เรามีความผิดร่วมและยังไม่ชัดเจนในเรื่องการชันสูตรว่า จะดูตามหลักฐานใหม่ให้ถูกต้องหรือเปล่า รอว่าการทำชันสูตรดูตามคลิปแล้วต้องทำให้ถูกต้อง ซึ่งเขาบอกว่า เหมือนลูกเราขับตามมาซึ่งไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น จะว่าทุกคนขับตรงไปแล้วไปชนกันก็เลยผิดร่วมนะ แต่พอเราไปดูคลิปแล้ว ลักษณะเหมือนรถยนต์เค้าย้อนศรมาจากที่กลับรถ วิ่งช่องทางด่วนมา แล้วลูกขับรถตรงมาเพื่อที่จะไปยูเทิร์นกลับบ้าน พอเขาย้อนศรมาถึงหน้าการไฟฟ้าฯก็เกิดการชนปะทะกันตามคลิปที่เห็น ณ วันนี้จะมีการแก้ไขการพิสูจน์หลักฐานหรือไม่ อยู่ที่พนักงานสอบสวนเจ้าของเรื่อง
“พนักงานสอบสวนบอกกับแม่ว่า เราผิดร่วมนะ ซึ่งเราก็ให้ไปตรวจดูคลิปและตรวจให้ชัดเจน ถ้าลูกผิดจริงก็ยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ผิดจริงเราอยากให้มันถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ใช่ลูกตายแล้วมีมลทิน เราก็เสียใจอยู่แล้ว ลูกมาตายแล้วยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนที่ควรจะได้รับการชดเชยสินไหมทดแทน ก็อยากให้การทำตามกฎหมายเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ไม่ให้คนทำผิด ทำผิดซ้ำ ๆ เป็นกรณีที่คนอื่น ๆ จะได้เอามาเป็นอุทาหรณ์ด้วย เพราะถนนเส้นใหม่แถบนี้ทำให้คนมักง่ายกันหมด เป็นอะไรที่ชอบย้อนกันง่าย ๆ มันเสี่ยง แล้วตายขึ้นมาไม่มีใครรับผิดชอบ ยิ่งเสี่ยง เรามีความหวังกับเค้าเยอะ เพราะลูกกำลังโต หวังว่าจะได้อาศัยได้ดูแลพ่อแม่ เสียใจเยอะ แต่ก็ต้องทนไว้ บางทีเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราไปหาพยานปากมา ซึ่งเป็นหน้าที่เค้า ถ้าต้องการเห็นคลิปมายืนยันเราก็ไปหาให้แล้ว จึงอยากได้ความถูกต้องและความเป็นธรรมว่า เจ้าหน้าที่ดูแลคดีให้ยุติธรรมที่สุด ” ผู้เป็นแม่กล่าว
ทั้งนี้ นางบุญลาภ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูภาพลูกชายและกระดูกที่เก็บไว้ครบ 1 เดือน เตรียมทำบุญ 100 วัน ในวันที่ 31 ม.ค.64 นี้ และกล่าวทิ้งท้ายทั้งน้ำตาว่า หากไม่ได้ความยุติธรรมคงต้องฟ้องร้องต่อไป เพราะได้รับข่าวสารมาตลอดว่า ทางนั้นสู้นะ สู้นะ ซึ่งเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เพราะถูกต้องพยายามไปหากล้องวงจรปิดมายืนยันให้ได้ว่า เราผิดหรือไม่ผิด ถ้าเราผิดจริงเราก็ยอมรับ แต่เมื่อลูกไม่ผิด เราก็ไม่อยากให้มันผิดเพี้ยน อยากให้ได้ความยุติธรรมตามกฎหมาย เพราะหลังเกิดเหตุตนจะไปแจ้งความเป็นเจ้าทุกข์ว่า เราได้รับความเสียหาย ลูกถูกรถชนตาย แต่เขาก็บอกว่า มีบันทึกประจำวันแล้ว สามารถจะใช้ดำเนินคดีได้ ลักษณะนี้น่าจะเป็นประมาทร่วม เราก็ยิ่งเครียดอีกว่า ลูกเราผิดหรืออย่างไร จึงต้องพยายามไปหาคลิปหลักฐานมายืนยัน ซึ่งหลังจากนี้ ตนก็คงต้องขอร้องเรียนเพื่อขอความยุติธรรมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยอนุเคราะห์ความยุติธรรมให้มันเกิดในสังคม ดูตามคลิปคนก่อเหตุผิดอาญา ผิดกฎหมายบ้านเมือง และละเมิดต่อเรา ความแพ่งก็ผิดกับเราทำให้สูญเสียทรัพย์สิน สูญเสียลูก โดยจะยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น ระบุเพียงว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค.63 เวลา 01.15 น. ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี พนักงานสอบสวน รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เยื้องหน้าที่ทำการไฟฟ้าวังน้ำเย็น ม.9 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว มีรถยนต์ส่วนบุคคล โตโยต้าวีโก้ สีเทาดำ ทะเบียนรถ 1ขง-2226 กรุงเทพมหานคร ขับขี่โดย น.ส.ปาลิตา วงศาหลง อายุ 24 ปี ที่อยู่ 15 ซอยไอทีซิตี้5 เขตคลองสามประเวศ ลาดกระบัง กทม. และรถจักรยานยนต์ ซูมเมอร์เอ็กซ์ ทะเบียน 1กฆ-2135 ขับขี่โดย นายอัครเดช ตรีแก้ว อายุ 21 ปี ที่อยู่ 38 ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.วังน้ำเย็น จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อทำการสอบสวนดำเนินการต่อไป กระทั่งเวลา 03.00 น.รับแจ้งว่า นายอัครเดช ได้เสียชีวิต จึงได้เดินทางไปร่วมชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์เวร
จากการตรวจสอบจากคลิปวิดีโออุบัติเหตุดังกล่าว พบว่า รถยนต์กระบะได้ขับย้อนศรจากจุดกลับรถหน้าโกดังโชคไพศาลฯ ขับย้อนศรเลนทางด่วนมาจนเกิดอุบัติเหตุชนกันอย่างจัง กับรถจักรยานยนต์ ในช่วงวินาทีที่ 29 เกิดเสียงดังสนั่น หลังจากนั้นในช่วงนาทีที่ 9.45-10.20 คนขับรถกระบะได้วิ่งไปเคลื่อนย้ายรถ จากหันหน้าขับย้อนศร ให้กลับมาอยู่ในทิศทางมุ่งหน้าไปทาง จ.จันทบุรี ให้ถูกต้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงจุดเกิดเหตุดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น กล่าวว่า ญาติของผู้เสียชีวิตได้มาพูดคุยกับตนเองและพนักงานสอบสวนเบื้องต้นแล้ว และได้สั่งการให้ดูแลคดีอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งขณะนี้ในทางคดีสรุปว่า คู่กรณีที่เป็นรถกระบะขับรถย้อนศรมา หลังจากที่ดูจากคลิปวงจรปิด จากเดิมที่ตอนแรกดูจากที่เกิดเหตุเท่านั้น ก่อนที่จะมีเรื่องคลิป ดังนั้นคดีนี้จะต้องมีการดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด โดยรอผลพิสูจน์หลักฐาน น่าจะมาแล้ว คาดว่าภายใน 2 เดือน น่าจะสามารถส่งฟ้องได้ ส่วนบริษัทประกันมีการปฏิเสธและประวิงเวลา เพราะผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนมาก สามารถไปฟ้องร้องทางแพ่งกันได้อีก
ล่าสุด วันนี้ (22 พ.ย.63) นางบุญลาภ ตรีแก้ว พร้อมด้วยครอบครัว ได้นำผ้าไตรและภาพหน้าศพของลูกชายที่เสียชีวิต ไปร่วมในพิธีอุปสมบท นายพีร ก้อนแก้ว อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน อายุเท่ากันและเป็นเพื่อนรักกันกับคนตายมาก จึงบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับ นายอัครเดช ตรีแก้วและบุพการีไปพร้อมกัน ที่วัดวังแดง ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมกับยืนยันที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้ก่อเหตุซึ่งไปร่วมงานศพบุตรชาย ยอมรับกับครอบครัวว่า วันนั้นเมา จึงขับรถย้อนศร เพื่อรีบไปวิ่งงาน 3 งาน พาทีมงานนักร้องสาวและโคโยตี้ไปร่วมงานร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่ จนเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: