สระแก้ว – ชาวบ้านเตรียมรวมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องเรียนต่อประธานรัฐสภา วันที่ 24 ธ.ค.นี้ กรณีรัฐบาลหลอกชาวบ้านให้ทำลายไร่มันสำปะหลัง จำนวนกว่า 1 หมื่นไร่ แต่ไม่จ่ายค่าชดเชยโรคใบด่างฯ ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวไร่มันสำปะหลังในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว นำโดย นายสนิท เย็นประสพ อยู่บ้านเลขที่ 148 ม.10 บ้านมะกอก ตำบลทัพเสด็จ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว รวมตัวกันเพื่อรวบรวมรายชื่อและปรึกษาหารือกัน สำหรับร้องเรียนปัญหาเงินชดเชยค่าเยียวยาโรคใบด่างฯ ในพื้นที่เกือบ 1,000 ราย สำหรับนำไปยื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ภายหลังเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง เข้าตรวจสอบปัญหากับหน่วยงานภาครัฐ เรื่องไม่ได้รับเงินชดเชยค่าเยียวยาโรคใบด่างในมันสำปะหลัง ปี 2562/2563 และยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ย.63 แต่ก็ยังไม่ได้รับคำอธิบาย โดยมี นายยุทธพัฒน์ เพ็ชรประเสริฐ เข้าไปรับเรื่องความเดือดร้อนจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาวบ้าน บอกว่า ปัญหาใหญ่ของประชาชนกว่า 1,000 ราย ขณะนี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แต่บรรดานักการเมืองทั้งหลายกลับไม่มองเห็น ไม่รับรู้ความทุกข์ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร เกษตรกรหมู่บ้านมะกอก จึงรวมตัวกันเพื่อจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาและประธานกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รัฐสภา ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ โดยชาวบ้านมะกอก ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา ประมาณ 60-100 คน ที่ร่วมพูดคุยและร่วมรับฟังปัญหาพร้อมใจที่จะเดินทางไปเรียกร้องเรื่องนี้ที่รัฐสภา หลังได้รับการยืนยันว่า จะไม่ได้รับเงินค่าชดเชยโรคใบด่างในมันสำปะหลัง ปี 2562/2563 เพราะปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น ภ.บ.ท.และพื้นที่เช่าในเขตที่ทหารดูแลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ชาวบ้าน ยังระบุด้วยว่า จากการนำเอกสารเลขบัตรประชาชน 13 หลักไปตรวจเช็คการจ่ายเงินค่าชดเชยโรคใบด่าง ปรากฏว่า มีบัตรประชาชนของเกษตรกร 15 ราย ที่เข้าโครงการโรคใบด่างในมันสำปะหลังและพบมีเงินเข้าแล้ว แต่เกษตรกรกลับยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอ, ที่ว่าการอำเภอตาพระยาและธนาคาร ธกส. ได้รับคำตอบว่า เกษตรกรกลุ่มที่ปลูกในที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น ภ.บ.ท.5 จะไม่ได้รับเงิน โดยรัฐบาลอนุมัติให้จ่ายเงินเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ,ส.ค.1 และที่ดินโฉนดเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้รับเหมาขุดฝังกลบมันสำปะหลังที่เป็นโรคใบด่างทุกแปลงกลับได้รับเงินค่าดำเนินการ ทั้งในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ครบถ้วน สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก เหมือนกับรัฐบาลหลอกลวงชาวบ้านให้นำมันสำปะหลังของเกษตรกรมาทำลายทิ้ง โดยไม่จ่ายเงินค่าชดเชยใด ๆ เกษตรกรจึงต้องการขอความชัดเจนและสิ่งที่ชอบธรรมกับกรณีปัญหาดังกล่าว
ทางด้าน นายสำเริง วงษ์ป้อม ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า กรณีที่ชาวบ้านไม่ได้รับเงินค่าชดเชยดังกล่าว เกี่ยวข้องกับเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่ปลูกมันสำปะหลัง มีทั้งทีดินมีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งทางกรมแจ้งมาให้ทำลายทั้งหมด แต่เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วโดยทำลายทั้งพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีทั้งหมด ประกอบกับคู่มือดำเนินการไม่ชัดเจนสำหรับผู้ปฏิบัติ กระทั่งคณะรัฐมนตรีมีมติไม่จ่ายเงินให้พื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น ภ.บ.ท.5 และพื้นที่นอกเขต ส.ป.ก.หรือพื้นที่ทหารดูแลบริเวณแนวชายแดนและให้ชาวบ้านเช่าใช้พื้นที่ ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดพยายามประสานงานกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะรัฐมนตรีและสำนักงบประมาณ ยืนยันว่า ไม่จ่ายค่าชดเชยให้ในส่วนนี้ ซึ่งผู้ปฏิบัติในระดับจังหวัดก็หนักใจกับปัญหาดังกล่าว
นายสำเริง กล่าวอีกว่า เราพยายามช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาโดยการจัดหางบประมาณเพื่อจัดหาต้นพันธ์มันสำปะหลังใหม่ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่เดือดร้อน เพื่อชดเชยให้ชาวบ้านแทนในปัจจุบัน ซึ่งตัวเลขที่เกษตรกรไม่ได้เงินค่าชดเชยโรคใบด่างในพื้นที่ จ.สระแก้ว มีประมาณ 10,000 ไร่ คิดเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท หรือไร่ละ 3,000 บาท ล่าสุด ทางเกษตรพยายามช่วยเหลือโดยเดินทางไปกระทรวงและกรม แต่ทางต้นสังกัดยืนยันว่า ครม.ไม่จ่ายให้ ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่รู้จะทำอย่างไร และปัจจุบันงบถูกตัดไปแล้ว ส่วนกรณีที่ผู้รับเหมาหรือนายทุนที่รับฝังกลบมันสำปะหลังที่เป็นโรคใบด่าง ได้รับค่าจ้างไร่ละ 2,000 บาทต่อไร่ ครบจำนวน ทั้งพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์นั้น เป็นเพราะการจัดซื้อจัดจ้างเป็นการดำเนินการตามสัญญาตามจำนวนที่ทำจริง จึงไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์หรือไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด
——————————–
