สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ออกคำสั่งจังหวัดที่ 22 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัด คือสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ระยอง และชลบุรี และที่อาจมีเพิ่มเติมในภายหลัง รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในเขตท้องที่ทันที และกักกันตนเองที่บ้าน 14 วัน นอกจากนั้นที่ อ.เมืองสระแก้ว ได้เริ่มปล่อยแถวศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคโควิด-19 แล้ว
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสระแก้ว ออกคำสั่งเรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 30 ธ.ค.63 โดยกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) (ศบค.) กำหนด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 และที่อาจมีเพิ่มเติมในภายหลัง รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในเขตท้องที่ทันทีและกักกันตนเองที่บ้าน หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น เป็นระยะเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน และให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา สถานประกอบการและโรงงานทุกแห่ง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด (DMHTT คือ D : Distancing / M : Mask wearing / H : Hand washing / T : Temperature check / T : Thaichana) หากไม่สามารถปฏิบัติได้ ให้พิจารณาหยุดการดำเนินการหรือกิจการทันที
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ยังกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบสถานที่ และการดำเนินการของเจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พนักงานเจ้าหน้าที่อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม และมีอำนาจกำหนดช่วงระยะเวลาให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ของโรค รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวได้ นอกจากนั้น ให้ถือคำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ข่าวน่าสนใจ:
- นายก อบจ.ระยอง ประกาศลาออกก่อนครบวาระ 1 วัน พรัอมลงชิงชัยตำแหน่งนายก อบจ.ระยอง อีกหนึ่งสมัย
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 มอบให้ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว
- เครื่องกั้นรถไฟคลองแขวงกลั่นพังบ่อย ล่าสุดลงปิดขวางถนนนานข้ามคืน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้แจ้งเตือนว่า เทศกาลปีใหม่ 2564 ผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดสระแก้ว ขอความร่วมมือให้ สแกน QR CODE หรือลิ้งค์ http://www.sko.moph.go.th/covid19/index.php?r=person-sqc/create&self_regis=Y เพื่อบันทึกข้อมูลเพื่อติดตาม เฝ้าระวังโรคโควิด-19 , ขอให้แจ้ง อสม. หรือผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง ถ้ามาจากพื้นที่สีแดง ต้องกักตัว 14 วัน ถ้ามาจากพื้นที่อื่น (ส้ม/เหลือง/เขียว) ให้คุมไว้สังเกตอาการ 14 วัน สามารถเดินทางได้ ไม่ต้องกักตัว แต่ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน อสม.ในพื้นที่ และวัดไข้สังเกตอาการป่วย รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สายด่วนโควิดสระแก้ว 098-2728734 ,065-7021100
นอกจากนั้น ที่บริเวณหน้าอาคารอเนกประสงค์ สำนักงานเทศบาลเมืองสระแก้ว ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว นายณัฐฏชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานปล่อยแถวคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อำเภอเมืองสระแก้ว เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วในช่วงที่เป็นวันหยุดเนื่องในเทศกาลปีใหม่นี้ ทางอำเภอเมืองสระแก้วจึงได้จัดพิธีปล่อยแถวศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว เพื่อเป็นการตรวจตรา ควบคุม กำกับการบริการ ของผู้ประกอบการและการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมี อสม. เจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 23 หน่วยงานเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: