สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 12 ตรวจยึดรถกระบะตู้ทึบ 2 คัน ภายในบรรทุกรถจักรยานยนต์หรู 12 คัน ไม่มีเอกสาร มุ่งหน้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดเตรียมลักลอบนำข้ามชายแดนส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา และ พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รอง ผบ.กกล.บูรพา สั่งการให้กองกำลังชายแดนเข้มงวดกวดขัน ปัญหาการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา และการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออกประเทศ บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ โดย พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา, พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1205 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์เฝ้าตรวจและลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบในห้วงเวลาที่ผ่านมา กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับมาจอดที่บริเวณท้ายหมู่บ้านกิโลสอง ลักษณะหันหัวรถยนต์มุ่งหน้าจะไปบ้านป่าไร่ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ โดยเป็นรถกระบะบรรทุกตู้ทึบ 2 คัน พร้อมคนขับรถยนต์ จึงร่วมกับเข้าทำการตรวจสอบทันที
ข่าวน่าสนใจ:
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรถยนต์คันที่ 1 ที่บริเวณพิกัด TA.338155 บ.กิโลสอง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และคันที่ 2 บริเวณพิกัด TA.327146 บ.กิโลสอง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยทั้ง 2 คัน เดินทางมาพร้อมกัน ชุดลาดตระเวนจึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบเป็นผู้ขับขี่ชาวไทย เพศชาย จำนวน 2 คน ตรวจสอบภายในตู้ปิดทึบรถบรรทุกกระบะมีรถจักรยานยนต์หรู ตู้ละ 6 คัน รวม 12 คัน สภาพใหม่และไม่พบเอกสารรถและการครอบครองรถแต่อย่างใด คาดว่าเตรียมลักลอบนำข้ามชายแดนส่งขายประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1205 เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ทราบว่าชาวไทยทั้ง 2 คน เป็นรถรับจ้างขนส่งโดยเดินทางไปรับรถจักรยานยนต์มาจาก ซอยไอยรา27 ต.คลองหลวง อ.คลวงหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า โดยยังไม่ทราบสถานที่ ซึ่งนายจ้างจะคอยติดต่อบอกเส้นทางและปลายทาง ด้วยโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางรถขนส่งตู้ทึบและรถจักรยานยนต์ทั้งหมด มาซักถามที่ทำการกองร้อยทหารพรานที่ 1205 โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวของกองกำลังบูรพา ร่วมตรวจสอบและซักถามด้วย เพื่อขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง
นายณัฐวุฒิ เวชพันธุ์ หรือ หนุ่ม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 ม.3 ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ขับขี่รถยนต์อีซูซุดีแม็ก สีขาว ทะเบียน บย-2307 ปราจีนบุรี ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า มีอาชีพขับรถรับจ้างทั่วไป ได้ชักชวน นายวัชรินทร์ สัมพันธ์ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 178 ม.1 ต.ป่าโมง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ผู้ขับขี่รถยนต์คันแรก ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน 3ฒก-5037 กทม. ไปรับรถจักรยานยนต์ดังกล่าวเมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 16 ม.ค.64 โดยจัดรถจักรยานยนต์ขึ้นรถยนต์คันละ 6 คัน ที่จุดนัดพบซอยไอยรา27 ต.คลองหลวง อ.คลวงหลวง จ.ปทุมธานี ขับมุ่งหน้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะขับรถยนต์มาถึงบริเวณซอยในหมู่บ้านกิโลสอง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ถูกเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1205 ขอตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนและทำบันทึกจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารพรานที่ 1205 กรมทหารพรานที่ 12 จึงได้ดำเนินการใช้กฎอัยการศึก ลงวันที่ 19 ก.ย.2549 ในเขตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในการควบคุมตัวและส่งตัว นายณัฐวุฒิ เวชพันธุ์ และนายวัชรินทร์ สัมพันธ์ พร้อมทั้งของกลางรถยนต์กระบะตู้ทึบ จำนวน 2 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 12 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ADV150AM 4 คัน ,ฮอนด้า สกูปปี้ ไอ 6 คัน ,ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์150 จำนวน 2 คัน กระทั่งช่วงเวลา เวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.คลองลึก ,พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ฮะกาว รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก พร้อมชุดสืบสวน ,และร้อยเวร สภ.คลองลึก ร่วมกับ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุม กรมทหารพรานที่ 12 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฯ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ซึ่งต้องสงสัยว่า อยู่ในกระบวนนำรถออกนอกประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฏหมาย เพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระบวนการดังกล่าว พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาและของกลางที่จับกุมได้ ให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
—————————–
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: