สระแก้ว – ผู้ใช้รถใช้ถนนสุดทน โพสต์ด่ารถอ้อยมักง่าย ทำอ้อยตกหล่นเกือบเกิดอุบัติเหตุ พื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ด้านฝ่ายปกครองวังน้ำเย็นลุยตรวจแรงงานกัมพูชาตัดอ้อยในพื้นที่ป้องกันการลักลอบใช้แรงานโดยผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า “ต้องทำได้ ต้องทำให้ได้” ได้โพสต์ข้อความระบายความอัดอั้นใจระบุว่า “ห่าเอ้ย ถ้าเป็นมอเตอร์ไซด์ยังไงก็ล้ม บีบแตรขนาดนี้ยังไม่จอด มักง่ายจริงๆ” เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะขับรถอยู่บนเส้นทางหลวงสาย 3395 ที่บริเวณบ้านหนองยาง ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยขับรถตามหลังรถบรรทุกอ้อย ซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วและได้เกิดเหตุอ้อยร่วงหล่น จนต้องเบรกกะทันหันเนื่องจากเกรงว่า จะเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้นคนขับรถอ้อยก็ได้ขับวิ่งต่อไปหน้าตาเฉยโดยไม่สนใจว่า อ้อยที่ร่วงหล่นดังกล่าวจะกีดขวางการจราจรหรืออาจทำให้รถที่ขับตามมาด้านหลังอีกหลายคันเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์มีโอกาสลื่นล้มได้ จนมีผู้เข้ามาแชร์ส่งต่อไปยังกลุ่มต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นต่อว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าวอย่างหนัก เช่น การแนะนำให้แจ้งความเอาผิด และต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในช่วงฤดูกาลหีบอ้อยและตัดอ้อยเข้าโรงงานซึ่งปีนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาลฤดูกาลหีบอ้อยประจำปี ซึ่งทุกหน่วยงานมีมติเห็นชอบและให้ผู้ประกอบการและโรงงานฯ นำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยกำหนดให้รถบรรทุกอ้อยมีสายรัด ติดธงแดง พร้อมป้ายข้อความสีแสงสะท้อนแสงว่า “รถช้าบรรทุกอ้อย” พร้อมติดสัญญาณไฟสีแดง รวมทั้งอ้อยที่ตัดท่อน ให้มีหรือตาข่ายคลุม มัดให้แน่นป้องกันอ้อยตกหล่น ให้รถอ้อยทุกคันติดผ้าแดงขนาดใหญ่ท้ายรถอย่างน้อย 2 ผืน ติดสัญญาณไฟแดงไว้ด้านข้างซ้าย-ขวาของตัวรถ และให้มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการบรรทุกขนส่งอ้อย หากมีอ้อยตกหล่น ให้รีบขนย้ายออกโดยเร็ว รวมทั้งให้คนขับรถบรรทุกอ้อย มีความระวัดระวัง บริเวณทางแยกทางโค้ง ทางร่วม ทางเนินในเขตชุมชน เป็นกรณีพิเศษ วิ่งชิดซ้ายสุด ห้ามแซงในที่ชุมชนในที่คับขันเด็ดขาด ซึ่งกรณีที่มีผู้โพสต์ดังกล่าวถือว่า กระทำผิดแนวทางปฏิบัติดังกล่าวชัดเจน
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น ภายใต้การอำนวยการของ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รายงานการดำเนินการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่เข้ามาตัดอ้อยในพื้นที่ในช่วงวันที่ 19-20 มกราคม 2564 โดยได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการกองร้อย อส.อ.วังน้ำเย็น ออกตรวจสอบแรงงานต่างด้าวตัดอ้อยในพื้นที่เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ และ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ซึ่งได้เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวจากผู้ประกอบการไร่อ้อยจำนวน 7 ราย ใช้แรงงานต่างด้าวจำนวน คน
โดยผู้ประกอบการที่เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 ประกอบด้วย ผู้ประกอบการราย นายวันที สามารถ บ้านเลขที่ 79 ม.13 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 28 ราย ชาย 13 ราย หญิง15 ราย, นางอโนทัย เนียมสำโรง บ้านเลขที่ 109/1 ม.8 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 20 ราย ชาย 11 ราย หญิง 9 ราย ,นางสมนึก คำวงษา บ้านเลขที่ 512 ม.7 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 20 ราย ชาย 11 ราย หญิง 9 ราย ,นายไพรบูรณ์ ศรีทอง บ้านเลขที่ 437 ม.7 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 39 ราย ชาย 17 ราย หญิง 22 ราย
ส่วนการเข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ผู้ประกอบการราย นายเสถียร คลาชานนท์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.13 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 20 ราย ชาย 10 ราย หญิง 10 ราย, นางบัวหลวง เทียนสุพรรณ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250/2 ม.15 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 39 ราย ชาย 21 ราย หญิง 18 ราย ,นางประยูร แสนเสนา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 ม.1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 28 ราย ชาย 13 ราย หญิง 15 ราย โดยแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งหมดมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง ชุดปฏิบัติการฯ ได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการชาวไทยให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายในการใช้แรงงานต่างด้าวและถือปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารธารณสุขโดยเคร่งครัดด้วย
——————————
ขอบคุณภาพ/เฟซบุ๊ก-ต้องทำได้ ต้องทำให้ได้
