ปราจีนบุรี – คืบหน้ากรณีแม่บ้านโรงแรมดังในนิคมอุตสาหกรรม 304 เก็บถุงผ้าพบโทรศัพท์กับบัตรเอทีเอ็ม พร้อมเงิน 200 บาท ส่งคืนแต่ถูกแจ้งความกลับว่า มอบทรัพย์สินไม่ครบ ขาดเงินอีก 4 หมื่นบาท ตำรวจขอเวลา 2 สัปดาห์สรุปคดี
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักลงพื้นที่ปักหลักติดตามหาข้อเท็จจริงในกรณี นางผ่องศรี จันทร์สืบ ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเพราะเป็นคนเก็บถุงโทรศัพท์ พร้อมบัตรเอทีเอ็มกับเงินสดอีก 4 หมื่นบาท ที่นายพยม พนมบวน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศราวุธ ศิลป์สาย ร้อยเวรสอบสวน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.64 เวลา 11.00 น.ซึ่งเป็นการแจ้งหลังทรัพย์สินดังกล่าวหายตั้งแต่ 19.30 น.คืนวันที่ 21 ม.ค.64 โดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าหมู่บ้านสุกัญญาปาร์ค 2 ซอยบุยายใบ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยที่วันนี้ นางผ่องศรี ได้ชี้จุดที่พบถุงตก ในขณะที่กำลังยืนโทรศัพท์อยู่ข้างบ้าน ก่อนที่จะนำมาเปิดดูพบในถุงมีโทรศัพท์สองเครื่องกับบัตร เอทีเอ็มและเงินสด 200 บาท ก่อนที่จะนำไปเก็บไว้เพื่อรอเจ้าของมาถามหา โดยขณะเกิดเหตุมีผู้เห็นหลายคน
ต่อมา เวลา 11.00 น.วันที่ 22 ม.ค.64 ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ เรียก นางผ่องศรี ไปพบเนื่องจาก นายพยม พนมบวน เข้าแจ้งความว่าของหายและพบว่า นางผ่องศรี เป็นผู้เก็บไป โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเมื่อมาพบกัน ทางร้อยเวรเปิดให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาพูดคุย สุดท้ายทาง นางผ่องศรี ได้นำทรัพย์สินที่อยู่ในถุงผ้าคืนโดย นายพยม พนมบวน รับกลับไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ต่อมาหลังจากนั้น นางผ่องศรีกลับถูกเรียกไปพบร้อยเวรอีกครั้งเนื่องจาก นายพยม พนมบวน แจ้งว่า นางผ่องศรี ส่งคืนทรัพย์สินไม่ครบเนื่องจากในถุงดังกล่าวมีเงินสด 4 หมื่นบาท ที่ตนเตรียมจะนำไปเข้าธนาคาร แต่มาทำหล่นหายเสียก่อน และภาพจากกล้องเห็นว่า นางผ่องศรีเป็นคนมาหยิบไป ทางด้านนางผ่องศรี ยืนยันว่า ในถุงไม่มีเงินสด 4 หมื่น แต่มีแค่ 200 บาท แต่เนื่องจากกลัวความผิดที่เก็บแล้วไม่นำไปส่งคืนหรือแจ้งตำรวจอาจมีความผิด ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จนต้องดิ้นรนหาหยิบยืมเงินเพื่อจะนำมามอบให้นายพยม เพื่อให้เรื่องยุติ แต่หามาได้แค่ 2 หมื่นบาท ทางนายพยม ลดให้เหลือ 3 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายในวันที่ 2 ก.พ.64 เวลา 09.00 โดยประมาณ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ตามนัด นางผ่องศรี เอะใจว่า ถ้าของมีค่าหายจริง ทำไมไม่รีบมาแจ้งความตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ แต่นี่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึง 11 น.อีกวัน หลังขอดูกล้องวงจรปิดและไม่เชื่อว่า เงินที่นายพยม อ้างว่าเก็บไว้ที่นอนจะเก็บไว้มากขนาดนั้น จึงไม่เชื่อว่าเงินหาย 4 หมื่นจริง จึงขอให้ทางร้อยเวรเจ้าของคดี สอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับขอให้ทางนายพยม ยืนยันหาที่มาของเงินทั้งหมดว่า มีจริงไม่ใช่มาอ้างหลังมีคนมาพบถุงดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หอพักลัดดา ที่นายพยม อ้างว่าทางบริษัท เช่าไว้ให้พัก แต่ปรากฏว่า ทางเจ้าของหอปฏิเสธไม่รู้จัก และเมื่อสอบถามไปยังผู้เช่าที่ถูกอ้างก็ปฏิเสธว่า ไม่มีพนักงานชื่อนี้ ทางด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้ และอยู่ในระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าใครผิดใครถูก ส่วนที่สองฝ่ายจะพูดคุยทำความตกลงก็มีโอกาสพูดคุยกันได้ ทางตำรวจขอเวลาอีก 2 อาทิตย์ ก็น่าจะสรุปได้
————————
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: