สระแก้ว – กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาวิจัยและพัฒนาต้นแบบการสร้างระบบน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ รับมือภัยแล้งภาคตะวันออก นำร่อง 4 โครงการ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรตลอดทั้งปี
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์ ผงกุลา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 (ระยอง) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางลงพื้นที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการศึกษาพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการเพื่อเตรียมการรับมือบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝนปี 2563 โดยมี น.ส.ญาณินท์ พรหมศร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมหาเจริญ ,นายชนะ พันธ์สิงห์ อดีตกำนันตำบลทุ่งมหาเจริญ และกลุ่มเกษตรกรชาวบ้านผู้ใช้ประโยชน์ จำนวน 23 ราย คลอบคลุมพื้นที่ 542 ไร่ เพื่อใช้ในการเพาะปลูกลำไย ปาล์ม มะม่วง และพืชผักสวนครัวชนิดต่าง ๆ โดยโครงการจะมีการขุดเจาะน้ำบาดาล จำนวน 6 จุด เพื่อสูบน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้นแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ความจุประมาณ 120 ลบ.ม.จำนวน 2 แท็งค์ และปล่อยเข้าระบบท่อกระจายไปสู่แปลงการเกษตรของชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ได้ตลอดทั้งปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ทั้งนี้ นายอานนท์ กล่าวว่า โครงการนี้จัดทำเพื่อศึกษาการพัฒนานำน้ำบาดาลมาใช้เพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการเพื่อเตรียมการรับมือบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักน้ำฝนปี 2563 โดยใช้งบกลางประจำปี 2563 เป็นการศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นระบบ จำนวน 9 จุด ในพื้นที่ภาคตะวันออก ใช้งบประมาณดำเนินการโครงการละ 11.4 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ จ.สระแก้ว มีการดำเนินการ 4 โครงการ ที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น 3 โครงการ และบ้านธารนพเก้า อ.เขาฉกรรจ์ 1 โครงการ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มี.ค.64 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็นของขวัญให้แก่ชาว ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น ,อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ไม่ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรในฤดูแล้งอีกต่อไป
นายชนะ พันธ์สิงห์ อดีตกำนันตำบลทุ่งมหาเจริญ ซึ่งดูแลโครงการร่วมกับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่บ้านแสนสุข ม.18 ต.ทุ่งมหาเจริญ กล่าวว่า มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก หลังจากเริ่มโครงการแล้ว แม้ว่าจะเป็นระบบน้ำเพื่อการเกษตรที่เราได้มาฟรี แต่เกษตรกรก็ได้ตกลงกันเพื่อร่วมกันบริหารจัดการการใช้น้ำ โดยอาจจะเก็บค่าใช้น้ำถูก ๆ เพียงยูนิตละ 1 บาท เพื่อเป็นทุนสำรองในการดูแลรักษา เช่น ท่อแตก หรือหลังจากหมดประกันที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดูแลให้ 2 ปี จะได้มีน้ำใช้กันตลอดไป ซึ่งเกษตรกรทุกคนยินดี และโครงการนี้ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เสริม ถึงไม่ได้มากขนาดร่ำรวย แต่ก็มีเงินเข้ากระเป๋าทุกวัน สามารถเก็บพริก เก็บกระเพรา มะเขือขาย เป็นรายได้เสริมในครอบครัว
น.ส.ญาณินท์ พรหมศร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมหาเจริญ กล่าวว่า ถือว่าเป็นความโชคดีของคนตำบลทุ่งมหาเจริญ ที่จะมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง หลังไปดูงานก็จะมีการรวบรวมกลุ่มเกษตรกรที่ขาดแหล่งน้ำจากปัญหาภัยแล้งให้ได้จำนวน 500 ไร่ขึ้นไป สำหรับทำเกษตรแปลงใหญ่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งหมู่ที่ 27 ต.ทุ่งมหาเจริญ ตอนนี้รวบรวมเกษตรกรได้ 23 ราย เนื้อที่ประมาณ 542 ไร่ หลังเขียนคำร้องขอความอนุเคราะห์จากสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 จ.ระยอง จึงได้มีการก่อสร้างระบบน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรนี้ขึ้นมา ซึ่งหลังได้น้ำมาแล้วชาวบ้านเตรียมจะปลูกพืชผักสวนครัว และมีรายได้หมุนเวียนเป็นอาชีพเสริม ไม่ใช่เป็นรายได้ปีละครั้งเหมือนการทำไร่ทุกปีที่ทำกันมา ในส่วนของค่าดำเนินการก่อสร้างและวางท่อระบบน้ำเข้าแปลงไร่และสวนของเกษตรกร ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการให้ทั้งหมด เกษตรกรจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย
อย่างไรก็ตาม สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ม.27 ต.ทุ่งมหาเจริญ บอกว่า ดีใจมากที่จะมีน้ำเพื่อใช้ในการทำการเกษตร ที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและแล้งมาก ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝนตก ตั้งใจว่า จะทำการเกษตรโดยเตรียมทำแปลงสำหรับปลูกพืชผักขาย หากมีน้ำสามารถทำได้ตลอดก็สามารถปลูกต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี เป็นรายได้ทุกวันของครอบครัว ปัญหาที่ตนเองและชาวบ้านประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบันคือ ไม่มีน้ำ จึงไม่สามารถทำอะไรได้เลยในช่วงฤดูแล้ง หลังจากนี้จะไปเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกผักสวนครัว หลังมีน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ไร่ของตนเอง ประมาณปลายเดือน มี.ค.นี้ ทันที
——————————–
