สระแก้ว – มูลนิธิกระจกเงา นำแม่”น้องหลิว”สาวโรงงานวัย 19 ปี ที่หายตัวลึกลับและถูกฆ่าอำพรางศพในไร่อ้อยกลายเป็นศพไร้ญาตินานกว่า 8 ปี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อเชิญวิญญาณกลับบ้าน หลังแจ้งความให้ตำรวจรื้อคดี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณไร่อ้อยบ้านใหม่เจริญผล ม.13 เส้นทางเชื่อมต่อบ้านสี่แยก ม.7 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว นายเอกลักษณ์ หลุ่มชุมแข หัวหน้าโครงการศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา เดินทางลงพื้นที่เพื่อนำ นางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา วัย 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และญาติอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยสื่อมวลชนจำนวนมาก ไปยังจุดพบศพเพื่อจุดธูปเชิญดวงวิญญาณของ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว อายุ 19 ปี ที่หายตัวไร้ร่องรอย จากบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ค.55 กระทั่งญาติร้องเรียนไปที่ศูนย์คนหาย มูลนิธิกระจกเงา และขอให้ติดตามตรวจสอบจากศพไร้ญาติในพื้นที่ จ.สระแก้ว เมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งศพดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งพบศพ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.55 ในสภาพเน่าเปื่อยไม่มีเอกสารใด ๆ จึงถูกส่งศพไปตรวจและเก็บดีเอ็นเอ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ก่อนจะนำศพไปเก็บไว้ที่สุสานเอกชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ผลการตรวจดีเอ็นเอของ นางสุรีวรรณ์กับศพไร้ญาติรายหนึ่งมีดีเอ็นเอตรงกัน และได้รับการยืนยันว่าคือ น.ส.มยุรี ที่หายตัวไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร เพื่อขอให้รื้อคดีและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
นางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา วัย 55 ปี แม่ของน้องหลิว บอกว่า หลังลูกสาวย้ายไปทำงานที่โรงงานรองเท้าในนิคมอุตสาหกรรม 304 และหายไประยะหนึ่งนั้น คิดในอกว่ายังไงลูกก็ไม่ได้เสียไปไหน ยังคิดว่าลูกยังทำงานอยู่ ไม่คิดว่าลูกจะเสียชีวิตแบบนี้ จนกระทั่งเหลนช่วยร้องเรียนไปที่มูลนิธิกระจกเงา ที่กรุงเทพฯ ให้ช่วยติดตามหา จนเหลนโทรมาบอกว่า ทางมูลนิธิกระจกเงาช่วยติดตามให้แล้ว ยายต้องสู้ ยายก็อยากรู้ว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า จนมารู้ว่าลูกไปเสียชีวิตมาได้แบบไหน ปกติวันหยุดสงกรานต์ลูกหลานเขามากันเยอะ เราก็นั่งมองว่าลูกเราจะกลับมาบ้านก็ไม่มี สงกรานต์ก็ไม่เห็น ปีใหม่ก็ไม่เห็น จะโทรหาก็โทรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาหายไปแบบไหน และจุดที่พบศพก็ไม่เคยเดินทางมาทางนี้เลย ตอนนี้ก็อยากจะพบกระดูกเร็ว ๆ จะได้เอาไปทำบุญ จะได้ไปผุดไปเกิด ถ้าอยากจะเกิดมาเป็นลูกเป็นหลานแม่อีกก็กลับมา
ข่าวน่าสนใจ:
“ตอนนี้ก็ให้มูลนิธิกระจกเงาดำเนินการในส่วนของศพ ส่วนตำรวจจะดำเนินคดีแบบไหนก็ให้ดำเนินการไปได้เต็มที่ สิ่งที่แม่ต้องการที่สุด ณ ขณะนี้คือ ต้องการให้เจ้าหน้าที่จับผู้ร้ายให้ได้เร็ว ๆ มากที่สุด จะได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ลูกได้เร็ว ๆ ซึ่งตลอดเวลา 8 ปีเข้าปีที่ 9 ไม่เคยเจอลูกอีกเลย จนมารู้ว่าลูกเสียชีวิตแล้ว” แม่น้องหลิวกล่าว
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชุมแข หัวหน้าโครงการศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ประเทศไทยปัจจุบันหลักเกณฑ์มาตรฐานที่จะสามารถเข้าไปบริหารจัดการสุสานเอกชนค่อนข้างมีปัญหา ซึ่งทางรัฐเองยังไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่จัดเก็บศพขนาดใหญ่ ที่มีหลุมศพชัดเจน สามารถเรียกมาตรวจสอบได้ หากเป็นสุสานเอกชนจึงยากที่จะจัดการ ดังนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเราจะได้ร่างหรือโครงกระดูกน้องหลิวมาบำเพ็ญกุศลหรือเปล่า หรือมีการล้างป่าช้าไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเราได้ทำเรื่องขอไปเป็นสัปดาห์แล้วยังไม่มีข้อมูลตอบกลับมา จึงอยากสะท้อนว่า เวลาที่ครอบครัวคนหายเดินเข้าไปบนโรงพัก หรือสถานที่ราชการเพื่อแจ้งเรื่องคนหาย เค้าไม่ทราบด้วยซ้ำว่า ตัวเค้าเองมีสิทธิ์ขอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อไปตรวจสอบกับศพนิรนามต่าง ๆ ซึ่งแต่ละหน่วยก็มีการเก็บศพนิรนามในรูปแบบที่ต่างกัน และการเก็บข้อมูลเพียงในส่วนของตัวเอง ไม่ถูกนำมาเชื่อมโยงกัน จึงเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข
นายเอกลักษณ์ กล่าวอีกว่า กระบวนการที่มูลนิธิฯ ทำมาคือ การรับแจ้งคนหาย และติดตามจนพบว่า น้องหลิวกลายเป็นศพนิรนามที่อยู่ในพื้นที่นี้ ภารกิจของเราตอนนี้ถือว่า เสร็จแล้ว ในการได้รู้ว่าคนหาย ได้หายไปไหน ในส่วนของภารกิจอื่นเช่น การสืบสวนสอบสวนว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร รวมทั้งการติดตามเรื่องว่า ศพน้องหลิวถูกส่งไปฝากฝังไว้ที่ไหน อย่างไร จะเป็นเรื่องที่เราช่วยตามต่อ ส่วนการสืบสวนว่า ผู้ก่อเหตุเป็นใครเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่แม่ของน้องหลิวและญาติจุดธูปเชิญดวงวิญญาณน้องกลับไปที่บ้าน ทุกคนต่างอยู่ในอาการเศร้าโศก ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า วันที่พบศพมีแรงงานกัมพูชามาตัดอ้อยและเห็นศพ จึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดู ตอนนั้นศพเหลือเป็นกระดูกแห้งแล้ว อยากให้ตำรวจดำเนินคดีจับคนร้ายให้ได้เร็ว ๆ ขณะเดียวกัน ญาติสนิทของน้องหลิว เล่าว่า ระหว่างที่น้องหลิวเรียนอยู่ที่บ้านใน จ.สระแก้ว เคยไปพัวพันครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่โคกสูงตั้งแต่ยังสาว ๆ กระทั่งครูคนนั้นย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแถวบ้านสี่แยกจุดที่พบศพ ก่อนจะย้ายไปเป็น ผอ.โรงเรียนอยู่ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งระหว่างคบหากัน ผอ.คนดังกล่าวจะเป็นคนหึงหวงมาก เคยมีการทำร้ายและยิงปืนใส่แต่ไม่โดน ครั้งหนึ่งเคยถูกจับขังไว้ในห้องและทำร้ายด้วยจนเธอทนไม่ไหว พยายามตีตัวออกห่างและเดินทางไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ ได้ไม่ถึง 1 เดือน และ ผอ.คนดังกล่าวก็ตามไปพัวพันจนกระทั่งเธอหายตัวไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย.55 พบเพียงรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ที่ห้างดังกล่าวแล้วขาดการติดต่อไปตั้งแต่บัดนั้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียชีวิตดังกล่าว พบว่า มารดาของผู้เสียชีวิตมาลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และแจ้งความคนหายไว้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.55 จริง ขณะที่ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 13 พ.ค.55 มีคนพบศพหญิงนิรนาม มีสภาพเน่าอืด ใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่มีเอกสารติดตัว ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดแผลจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายจุด ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จนนำมาสู่การติดตามโดยมูลนิธิกระจกเงาเมื่อปี 2563 จนพบดีเอ็นเอตรงกับผู้เป็นแม่ที่มาแจ้งความไว้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สระแก้ว ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีน้องหลิวที่หายไป และพบว่า ในช่วงน้องหลิวอยู่ที่พื้นที่อำเภอตาพระยา และคบหากับผู้บริหาร ร.ร.รายหนึ่งใน จ.สระแก้ว ต่อมาทั้งสองเริ่มมีปัญหา น้องหลิวจึงได้ย้ายไปทำงานที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จนกระทั่งมีผู้พบศพ และจากการชันสูตร พบว่า ศพน้องหลิวถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ซึ่งตรงกับผู้บริหารโรงเรียนรายนี้ ที่เคยแจ้งอาวุธปืนหาย หลังจากน้องหลิวหายตัวไป ทางชุดสืบสวน กำลังติดตามขยายผลว่า ผู้บริหารรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
ทางด้าน พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวัฒนานคร เปิดเผยว่า หลังญาติมาแจ้งความร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสระแก้ว ได้สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยมีชุดสืบสวนภาค 2 ,กองปราบปราม ,สืบจังหวัดสระแก้ว และ สภ.วัฒนานคร ร่วมทีมติดตามคดีนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดแล้ว ตั้งประเด็นการฆาตกรรมไว้ 3 ประเด็น และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยัน ก็สามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: