สระแก้ว – พ่อและแม่พร้อมญาติ เดินทางมารับกระดูกสะโพกต้นขาของ”น้องหลิว” สาวโรงงานวัย 19 ปี เหยื่อฆาตกรรมทิ้งศพกลางไร่อ้อย อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เมื่อ 8 ปีก่อน จากตำรวจที่ สภ.วัฒนานคร เพื่อนำกลับบ้านและชิ้นส่วนที่ได้รับ ถือเป็นตัวแทนของร่างบุตรสาวเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน โดยแม่ประกาศไม่อโหสิกรรมให้กับคนที่ฆ่าลูก ขอให้ได้รับกรรมที่ทำ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว อายุ 19 ปี สาวโรงงานที่หายตัวไร้ร่องรอย จากบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ค.55 กระทั่งญาติร้องเรียนไปที่ศูนย์คนหาย มูลนิธิกระจกเงา และขอให้ติดตามตรวจสอบจากศพไร้ญาติในพื้นที่ จ.สระแก้ว เมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งศพดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งพบศพ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.55 ในสภาพเน่าเปื่อยไม่มีเอกสารใด ๆ จึงถูกส่งศพไปตรวจและเก็บดีเอ็นเอ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ก่อนจะนำศพไปเก็บไว้ที่สุสานเอกชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ผลการตรวจดีเอ็นเอของ นางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา ผู้เป็นแม่วัย 55 ปี ชาว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กับศพไร้ญาติรายหนึ่งมีดีเอ็นเอตรงกัน และได้รับการยืนยันว่าคือ น.ส.มยุรี บุตรสาวที่หายตัวไปนั้น ภายหลังมีการแจ้งความขอให้มีการรื้อคดีเมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 ที่ผ่านมา และขณะนี้มีการสอบสวนสาวไปถึง ผอ.โรงเรียนรายหนึ่งนั้น ล่าสุด ความคืบหน้าคดีวันนี้ (17 ก.พ.) นายสมศักดิ์ และนางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา พ่อและแม่ของ น.ส.มยุรี เดินทางมาขอรับกระดูกส่วนสะโพกต้นขาของลูกสาว จากพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร เป็นผู้นำส่งมอบให้กับผู้เป็นแม่ ภายหลังลงบันทึกประจำวันเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังผู้เป็นแม่ได้รับซองกระดาษสีน้ำตาล ภายในบรรจุชิ้นสวนของกระดูกสะโพกต้นขาของบุตรสาว เพื่อนำกลับไปเก็บไว้ที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนเดียวที่รับรู้ได้ว่า เป็นตัวแทนของร่างบุตรสาวที่หายตัวไปกว่า 8 ปี เพียงชิ้นเดียวในปัจจุบัน หลังพยายามตามหาลูกมานานเกือบ 9 ปี โดยนายสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา อายุ 55 ปี กล่าวว่า หลังรับกระดูกจะเอาไปไว้ที่วัดหนองเสม็ด อ.โคกสูง ก่อน รอให้ได้ชิ้นส่วนครบทั้งหมดก่อน โดยชิ้นส่วนนี้เป็นกระดูกสะโพกต้นขายาวประมาณคืบ ที่แพทย์เก็บไว้สำหรับนำไปตรวจหาดีเอ็นเอเก็บไว้ ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นลูกสาวก็เสียใจบ้าง มันนานแล้วก็ทำใจได้บ้าง สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่เหลือ หากตรวจสอบแล้วว่า มีการล้างป่าช้าไปแล้วและไม่เจอชิ้นส่วนศพอื่น ๆ อีกแล้ว ทางมูลนิธิฯจะแจ้งกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้กำลังรอคำตอบอยู่ แต่หากไม่ได้จริง ๆ ก็จะทำบุญในส่วนที่ได้มาเท่านั้น ตั้งความหวังว่า อยากจะได้กระดูกของน้องมาให้ครบ แต่หากมูลนิธิฯแจ้งว่า ไม่เจอแล้วจริง ๆ ก็คงจะเอาแค่เท่าที่ได้รับนี้ไปทำบุญให้กับลูกสาว
ข่าวน่าสนใจ:
นางสุรีวรรณ์ กล่าวอีกว่า เคยเห็น ผอ.ตุ๊ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาว เนื่องจาก ผอ.เคยไปนอนพักที่บ้าน เคยไปกินที่บ้านของตนเองอยู่ ตอนที่เป็นครูในพื้นที่ตาพระยา ในช่วงเสาร์อาทิตย์ โดยบอกว่า รู้จักกันในช่วงที่น้องหลิวเรียนจบแล้ว ก็คบกันนานเกือบปี แต่ตนก็ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอนัก โดยตนอยากจะบอกกับคนที่ฆ่าลูกว่า คุณทำอะไรก็ขอให้รับกรรมไปเลย จะเป็น ผอ.หรือไม่ก็ 50/50 แล้ว อยากให้เขาได้รับกรรม เพราะคนเราฆ่ากันได้เลยหรือ ? จะให้อโหสิกรรมให้ก็คงจะยาก คงทำใจยาก
“หลังจากที่น้องหายไป ผอ.ตุ๊ ไม่เคยเข้ามาที่บ้านอีกเลย ซึ่งไม่เคยรู้ว่า ลูกไปรู้จักกับ ผอ.ตุ๊ได้อย่างไร ส่วนที่ ผอ.มีครอบครัวแล้ว ตนก็รู้เพราะน้องเคยบอกตอนที่เข้าไปนอนอยู่ที่บ้าน ลูกก็บอกแม่ว่า ผอ.มีแฟนมีลูกแล้วนะ จึงถามลูกกลับไปว่า ไปเอาผัวเค้าทำไมเค้ามีลูกแล้ว ซึ่งผอ.บอกหนูว่า เค้าอยากได้ลูกผู้หญิง เมียเค้ามีแต่ลูกผู้ชาย ใหม่ ๆ ก็ดีกัน แต่หลังจากนั้นน้องก็ไม่เคยเล่าเรื่องให้ฟัง ส่วนข้อสงสัยว่า ผอ.เกี่ยวข้องกับการตายก็ยังไม่เชื่อแน่ 50/50 หากเป็นคนทำจริงก็ขอให้มามอบตัว หากไม่มามอบตัวก็คงปล่อยให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน หลังจากได้รับกระดูกลูกสาวแล้วก็ดีใจ ถึงแม้จะเป็นส่วนน้อยก็ดีใจ อยากให้ตำรวจติดตามผู้ร้ายให้เร็วที่สุด เราจะได้ทำบุญให้น้องหลังจากนี้ ” แม่น้องหลิว กล่าว
ส่วนนายสมศักดิ์ ยอดพะเนา พ่อของน้องหลิว กล่าวสั้น ๆ ถึง ผอ.ตุ๊ ว่า ถ้าไม่ได้ทำก็ควรออกมาให้ข้อมูลกับเรื่องที่เกิดขึ้น และที่ ผอ.ตุ๊หายตัวไป ก็ไม่ได้กังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่มีคนมาทำร้ายลูกเรา ซึ่งตอนที่น้องหายตัวไปทาง ผอ.โทรมาหาแม่บอกว่า น้องไปต่างประเทศเท่านั้น
ทางด้าน พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร กล่าวว่า ทางตำรวจจะทำคดีนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งพยานหลักฐานที่มีการรวบรวมไปแล้ว ขณะนี้คืบหน้าไปมาก โดยในส่วนของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เรายังรออยู่ในเรื่องการตรวจที่เกิดเหตุ และอื่น ๆ โดยในส่วนของปืน 9 มม.ที่ ผอ.โรงเรียนคนหนึ่งแจ้งหายไว้กับปืน 9 มม.ที่น้องหลิวถูกยิง 3 นัด จนเสียชีวิต เป็นกระบอกเดียวกันหรือไม่ ทางตำรวจขอยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ ตำรวจกำลังสืบสวนอยู่ พยานและผู้ต้องสงสัยบางคนอาจจะดำเนินชีวิตปกติอยู่ จึงพยายามระมัดระวังในการนำเสนอออกสู่สังคม ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังรักษาราชการแทน ผบช.ภาค 2 สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่และติดตามผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิดนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านของ ผอ.รายดังกล่าวในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อเก็บหลักฐาน แต่ยังไม่พบปืน และมีรายงานว่า พนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลพยานหลักฐานและคำให้การของพยาน ยื่นต่อศาลเพื่อขอหมายจับผู้ก่อเหตุในอีก 2 วันข้างหน้าด้วย
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: