ปราจีนบุรี – เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรเผาบ้านแม่ค้าวอดทั้งหลัง ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน จึงเดินทางออกตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บ้านหนองคล้าสามัคคี ซอย7 พบเพลิงกำลังโหมไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวซึ่งอยู่ติดกันจำนวนสองหลัง บ้านเลขที่ 579 หมู่ที่ 6 บ้านหนองคล้าสามัคคี ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ของนางต้อย แซ่ซิ้ม อายุ 60 ปี โดยบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่ในทะเบียนบ้านจำนวน 5 คนแต่พักอาศัยจริง 3 คน ตอนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบ้าน เดินทางออกไปทำงานกันหมด และบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลังที่ถูกไฟไหม้บ้านเลขที่ 504 หมู่ที่ 6 บ้านหนองคล้าสามัคคี เป็นของ นางปานจันทร์ บุญนำพาสุขใจ อายุ 41 ปี ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พักอาศัยอยู่ด้วยกันจำนวน 4 คน ตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้เห็นเปลวเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 579 ซึ่งเป็นบ้านของ นางต้อย แซ่ซิ้ม ไฟได้ไหม้ช่วงบริเวณกลางบ้าน เห็นเปลวเพลิงพุ่งขึ้นบริเวณหลังคาบ้านลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียงที่อยู่กัน ของนางปานจันทร์ ซึ่งปลูกเป็นเพิงไว้สำหรับประกอบอาหาร จึงเรียกชาวบ้านข้างเคียงช่วยกันดับ แต่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากเป็นบ้านไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี บวกทั้งวันนี้มีลมแรง
ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสัจจะกบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่รถดับเพลิงที่อยู่ใกล้เคียง ระดมรถน้ำจากที่ต่าง ๆ เข้าช่วยสกัดเพลิงเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากกลัวไฟลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังติดกับกำแพงโรงเรียนกบินทร์วิทยา ซึ่งมีบ้านพักของอาจารย์และอาคารเรียนที่อยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เมตร รถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์บุรี จำนวน 2 คัน รถน้ำ องค์การบริหารส่วนตำบลนนทรี จำนวน 1 คัน องค์การบริหารส่วนตำบลนาแขม จำนวน 1 คัน รถน้ำจากเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จำนวน 1 คัน รถบรรทุกน้ำจาก ปภ.เขตุ 3 จำนวน 1 คัน เข้าทำการดับเพลิงจึงสงบให้เวลา 1 ชั่งโมงเพลิงจึงสบ
ร.ต.ท.หญิงพัชรพร ดานุวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ด้านล่างเป็นพื้นปูน มุงด้วยสังกะสี และอยู่ติดกันอีกหลังเป็นบ้านไม้เช่นกัน มุงด้วยสังกะสี ปลูกเป็นเพิงเพื่อใช้สำหรับประกอบอาหาร ถูกไหม้เหลือแต่เสาบ้านที่โผล่ให้เห็น ส่วนของมีค่าในบ้านถูกไหม้ไปกับเปลวเพิงทั้งหมด ไม่สามารถนำเอาของมีค่าออกมาได้ เนื่องจากไฟได้ไหม้อย่างรวดเร็ว สาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร รอพิสูจน์และตรวจสอบความเสียหายและสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้านทั้งสองหลัง
———————–
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง
