สระแก้ว – ประชุมร่วมไทย- กัมพูชา ระหว่าง จ.สระแก้วและ จ.บันเตียเมียนเจย หารือเตรียมความพร้อมการค้าขายในตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว โดยกำหนดแนวทางการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของชาวกัมพูชา ภายใต้มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 เสนอ สบค.พิจารณาเห็นชอบ
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมหารือเรื่องเตรียมความพร้อมการค้าขายบริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ณ ห้องประชุมด่านศุลกากรอรัญประเทศ ด่านถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยฝ่ายไทย มี นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,หน.ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือกับฝ่ายกัมพูชา โดยมี นายอุม เรียแตร็ม ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อม หน.ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญในการประชุมหารือ อาทิ กรณีแรงงานต่างด้าวจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีแรงงานประเภทงานขายของหน้าร้าน ให้ใช้หนังสือเดินทาง (PASSPORT) สำหรับแรงงานประเภท งานกรรมกร สามารถใช้หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ในการเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย โดยอนุญาต ให้เข้า-ออก ผ่านช่องทางด่านพรมแดนถาวรบ้านคลองลึกฯ เท่านั้น
ทั้งนี้ ข้อหารือดังกล่าวยังกำหนดวิธีการ โดยต้องแจ้งชื่อ ที่อยู่ อายุ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ร้านค้า สถานที่พักในประเทศไทย และต้องเข้ารับการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด-19) ตามที่ทางราชการกำหนด หรือมีใบรับรองการตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด-19) ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยและจะอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ หากตรวจไม่พบเชื้อเท่านั้น พร้อมกับให้เข้ารับการกักกัน ณ สถานที่ที่กำหนด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-5 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 11-13 ของระยะเวลาที่ถูกกักกัน และต้องอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 90 วัน และห้ามเดินทางออกนอกพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานต่างด้าวดังกล่าว จะต้องมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ,ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด คือ ห้ามใช้ เข้าไป หรืออยู่ในพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค เพื่อป้องกันและควบคุมมิให้เกิดการแพร่ของโรค ,ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาในขณะที่ประกอบกิจการค้าขาย ,จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และล้างมือทุกครั้งที่มีการสัมผัสสิ่งของหรือวัตถุที่มีความเสี่ยง , ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย , ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด โดยที่ประชุมหารือดังกล่าว เตรียมนำข้อตกลงและข้อหารือที่ตกลงร่วมกันทั้งหมด นำเข้าสู่การพิจารณาเห็นชอบจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. ของราชอาณาจักรไทยเสียก่อน ซึ่งทาง จ.สระแก้ว อยู่ระหว่างนำเสนอแนวทางตามข้อหารือดังกล่าวให้ ศบค.พิจารณา หากได้รับการอนุมัติหรือเห็นชอบ จะได้เร่งประสานทาง จ.บันเตียเมียนเจย เพื่อดำเนินการทันที
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: