สระแก้ว – เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน ชาวบ้านในพื้นที่เขตเทศบาลฯจะได้ใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาลอีกครั้ง ซึ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ถือว่ามีการแข่งขันสูงที่สุดในจังหวัด จากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 และมีการปิดด่านชายแดนมากกว่า 1 ปี ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับชาวกัมพูชาและพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ชาวบ้านจึงหวังเพียงว่า หลังการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งชายแดนอรัญประเทศขณะนี้ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง ขาดแรงงาน หรือการท่องเที่ยวซบเซา ซึ่งปัญหาของเมืองใหญ่และเมืองชายแดนไม่ว่าจะเป็นการจราจร ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำท่วม หรือปัญหาคุณภาพชีวิต จึงถูกหยิบยกมาพูดถึงในช่วงนี้
นายวิชัย ชวะนะพาณิชย์ นักธุรกิจค้าข้าวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่เมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว บอกว่า หลังเลือกตั้งเศรษฐกิจเมืองอรัญประเทศน่าจะเหมือนเดิม เพราะอรัญฯ อยู่ได้เพราะชายแดนกัมพูชา ขณะนี้ทางการผ่อนผันให้มีการค้าขายแนวชายแดนได้ตลอดแนวผ่านรถขนส่งสินค้า ตามจุดผ่อนปรนต่าง ๆ ทำให้ชาวบ้านพออยู่ได้ แต่ปัญหาจากโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจชะงัก ถ้ามีการเปิดด่านเศรษฐกิจมันก็จะดีขึ้นทันตาเลย และผลจากการเลือกตั้งตอนนี้คือ เงินสะพัด ชาวบ้านมีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เมืองอรัญฯต้องดูนโยบายที่ผู้สมัครประกาศออกมา ถ้าทำได้ก็จะดี สำหรับธุรกิจค้าขายข้าวสารช่วงที่ผ่านมาไม่กระทบ เพราะเป็นสินค้าจำเป็น ของที่ชาวบ้านจับจ่ายโครงการรัฐบาล ชาวบ้านจะซื้อข้าวสาร น้ำมัน ปลากระป๋อง เป็นหลัก ชาวบ้านก็พอใจโครงการรัฐบาล มีเงินสะพัดตามบ้านนอก
ข่าวน่าสนใจ:
นางจามณี ประสานพันธ์ เจ้าของร้านเจริญสโตร์ ซ.เวฬุวัน ตลาดอรัญประเทศ ที่รับชำระค่าสินค้าผ่านโครงการของรัฐ คนละครึ่งและเราชนะ กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมดีอยู่เพราะโครงการประชารัฐ ใช้เงินหลวงจ่ายค่าสินค้าให้ แต่หลังจากโครงการหมด ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ซึ่งตอนนี้รัฐบาลช่วยไปเยอะแล้ว ถ้ารัฐบาลช่วยมาก คนก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่ได้จ่ายเงินกันเอง ที่ขายได้เงินรัฐบาลทั้งนั้นเลย หลังรัฐบาลหมดโครงการฯ น่าจะกลับไปสู่ภาวะปกติ อาจจะซบเซาเหมือนเดิม และหลังเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว พื้นที่อรัญน่าจะดีขึ้น เพราะได้คนรุ่นใหม่มาทั้งคู่ และสิ่งที่คนพื้นที่ชายแดนต้องการที่สุดก็คือ อยากให้เปิดชายแดน ถ้าเปิดได้จะดีแน่ เพราะคนจะเดินทางมาอรัญประเทศแน่ ๆ
ส่วน น.ส.สินมณี หมายงาน นักธุรกิจค้าขายในตลาดโรงเกลือ บุตรสาวของ เสี่ยอ้วน อดีตนักธุรกิจชายแดนไทยกัมพูชา กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการหรือประชาชนอยากขอฝากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำระดับจังหวัด ส่วนราชการ ช่วยลงมาดูแลแก้ไขตรงนี้ให้ตลาดมันเปิดได้ โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องโควิด หรือปัญหาการค้าขายชายแดน อยากให้เปิดด่านชายแดนให้เป็นปกติ คนจะได้เข้ามาจับจ่าย เข้ามาทำมาหากินได้เป็นปกติ เพราะว่าตอนนี้ตลาดก็เหมือนว่า เปิดไปแล้วประมาณ 80 % เนื่องจากการข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ เป็นปัญหาผลกระทบจากโควิดด้วย อยากให้ผู้นำท้องถิ่นหรือนักการเมืองเข้ามาดูแลแก้ไขตรงนี้อย่างเป็นรูปธรรมจริง ๆ จัง ๆ เสียที การค้าในตลาดโรงเกลือจะได้กลับมาเป็นปกติ ปัญหาตอนนี้คือ คนคิดว่า จุดผ่านแดนยังไม่เปิด จึงคิดว่า ตลาดโรงเกลือยังไม่เปิด เช่นกัน คนจึงมาน้อย จริง ๆ แล้วตลอดมันเปิดไปแล้วประมาณ 80% คนจึงไม่มาเที่ยวไม่มาจับจ่ายใช้สอย กลายเป็นว่า ตอนนี้ก็จะมีแต่พ่อค้าแม่ค้า ไม่มีนักท่องเที่ยว
ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ซึ่งมีคู่แข่งอยู่เพียง 2 เบอร์ ประกอบด้วย นายกรินทร์ คติกำจร อดีตรองนายกฯ เบอร์ 2 และนายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง อดีตรองนายกฯ เช่นกัน เบอร์ 3 ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก และกลายเป็นพื้นที่เลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาลที่มีการแข่งขันสูงที่สุดใน จ.สระแก้ว โดยทั้งคู่ชูประเด็น นำปัญหาชายแดนมาเป็นจุดขายในการหาเสียงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.64 นี้
นายกรินทร์ คติกำจร ผู้สมัครนายกเทศบาลฯ หมายเลข 2 กล่าวว่า เมืองอรัญประเทศมีปัญหาหลาย ๆ อย่างที่ยังต้องได้รับการแก้ไข เช่น ปัญหาบ่อขยะที่เราใช้มานาน และกำจัดขยะโดยการผังกลบ ซึ่งเป็นวิธีที่โบราณมาก จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการคัดแยกขยะ รวมถึงปัญหาการจราจรเมืองอรัญที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการแก้ไข รวมถึงการป้องกันน้ำท่วมเมืองอรัญที่เกิดความสูญเสียอย่างมาก จำเป็นต้องมีการป้องกันแก้ไขในอนาคต สำหรับการค้าขายแดนปัจจุบันเวลาเรานึกถึงเมืองอรัญฯ เราจะนึกถึงแต่ตลาดโรงเกลือ จริง ๆ แล้วเมืองอรัญฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ นอกจากตลาดโรงเกลือโดยจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองอรัญฯ มากขึ้น มีการประชาสัมพันธ์ สื่อโซเชียลต่าง ๆ ของดีเมืองอรัญ
“หลังเกิดโรคโควิดฯ และมีการปิดด่านชายแดน ส่งผลให้เมืองอรัญฯ ซึ่งเป็นเมืองค้าขายชายแดนเกิดการหยุดชะงัก มีปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ชาวกัมพูชาหรือชายไทย ไม่สามารถจะข้ามไปมาหาสู่กันได้ ถ้าผมได้เป็นนายเทศมนตรีเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ก็อยากจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองอรัญอย่างต่อเนื่อง เช่นการจัดกิจกรรมกีฬา ให้คนต่างถิ่นเข้ามาใช้จ่ายในเมืองอรัญ จัดงานแกรนด์เซลล์ทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ” นายกรินทร์ กล่าว
ทางด้าน นายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง อดีตรองนายกฯ ผู้สมัครเบอร์ 3 กล่าวว่า ปัญหาต่าง ๆ ของเทศบาลเมืองอรัญฯ หลังจากทำงานมา 17 ปี ปัญหาเหมือนกับเมืองใหญ่ ๆ สำคัญที่สุดสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไฟฟ้า น้ำประปา กล้องวงจรปิด และที่สำคัญชุมชนทั้ง 19 ชุมชน มีผู้สูงอายุเยอะ มีผู้ป่วยติดเตียงเยอะ ถ้ามีโอกาสเข้ามาแก้ไข จะทำให้ อสม.ที่เข้ามาช่วยเรื่องโควิดฯ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปัญหาการจราจร หาที่จอดรถให้เพิ่มขึ้น ปัญหาอีกอย่างคือ บ่อขยะ มีขยะมากถึงวันละ 40 ตัน แยกมาใช้ได้ประมาณ 5 ตัน ที่เหลือเอาไปกองไว้ที่บ่อขยะที่เทศบาลจัดไว้ ถ้ามีโอกาส ผมจะทำโรงงานคัดแยกขยะเพื่อนำขยะที่ฝังกลับมารีไซเคิล หาประโยชน์ในส่วนนี้ ส่วนวัฒนธรรมของเมืองอรัญฯ จะมีการฟื้นฟู 5 ชนเผ่าและประเพณีดั้งเดิม
“ผมจะสร้างแลนด์มาร์คของเมืองอรัญฯ เช่น ณ พระสยามเทวาธิราช จะให้ผู้ที่สัญจรไปมาหรือมาเที่ยวบ้านเรา เกิดความประทับใจ ทำให้คนอรัญมีความภาคภูมิใจว่า ใครไปใครมาก็มาเที่ยวชม มาร่วมกันรักเมืองอรัญ ส่วนทางเข้าบ้านตรงค่ายสุรสิงหนาท จะทำเป็นประตูเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมไปถึงโครงการถนนเลียบรางรถไฟ จากชุมชนหลังโรงเลื่อยไปถึงโรงเกลือ ผ่านชุมชนบ้านโคกสะพานขาว ชุมชน กม.2 ชุมชน กม.3 , กม.5 จนไปถึงโรงเกลือ เฉพาะมอเตอร์ไซด์กับจักรยาน และทำทางยูเทิร์นใต้สะพานบ้านโคกสะพานขาว ลดปัญหาการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจค้าขายชายแดน หลังปิดด่านจากโควิดฯ ซึ่งต้องรออีกระยะหนึ่ง เพราะการควบคุมโรคของเรายังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะชาวต่างชาติรู้ ๆ อยู่ว่า เข้ามาเมืองไทยโดยการลักลอบทางธรรมชาติมากกว่า โอกาสที่จะติดโรคมีสูง เศรษฐกิจของเราระยะ 1-2 ปีนี้ของเราซบเซามาก ถ้าผมมีโอกาสมาเป็นผู้บริหารจะนำปัญหาต่าง ๆ ไปเสนอส่วนกลางเพื่อให้เกิดการแก้ไขต่อไป ” นายวัชรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
——————————–
เลือกตั้งท้องถิ่น, เลือกตั้งเทศบาล, ชายแดนไทยกัมพูชา, อรัญประเทศ, ตลาดโรงเกลือ, สระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: