สระแก้ว – ตำรวจวังน้ำเย็นคุมตัวผู้ต้องหาจี้สาวเข้าโรงแรมหวังข่มขืน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดสระแก้วในวันพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พูลศักดิ์ นานันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น และตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยนำผู้ก่อเหตุ นายอลงกรณ์ รักษา หรือ ไผ่ อายุ 29 ปี ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์และยาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.56 และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีได้เพียง 2 วัน ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้ำเย็น ที่คนร้ายบังคับผู้เสียหายขึ้นรถเก๋งขับไปเรื่อย ๆ จุดที่สองบริเวณขับรถชนรถเก็บขยะของเทศบาล ห่างจากจุดเดิมประมาณ 400 เมตร มีชาวบ้านมามุงดูการทำแผน และไปที่จุดที่สาม ที่คนร้ายลงจากรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าด้านหลังตลาด ส่วนจุดที่เป็นจุดสุดท้ายที่ไปทิ้งมีดและหลบหนีหายไป
ทั้งนี้ พ.ต.ท.พูลศักดิ์ นานันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี และชุดสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้ลงพื้นที่ค้นหา จนพบว่า มีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องหากำลังเดินทางด้วยเท้า บริเวณถนนบายพาสเส้นตะกุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการแกะรอยตามภาพวงจรปิดไปจับกุมตัวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งตัวเข้ามาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองสระบุรี นายไผ่ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองออกจากคุกมาได้ 2-3 วัน ในข้อหามีครอบครองยาบ้าที่ จ.จันทบุรี และค้าของหนีภาษี ติดคุกมาร่วม 4 ปี จากนั้น เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกจากคุก ตนได้ขับรถจักรยายนต์ไปพบผู้เสียหาย กำลังยืนอยู่หน้าตู้ ATM จึงได้ใช้อาวุธมีดเข้าไปเพื่อจะชิงทรัพย์ ขณะนั้นไม่สามารถกดเงินออกมาได้ จึงทำการใช้อาวุธมีดจี้บังคับผู้เสียหายให้ขับรถยนต์เก๋งไปข้างนอก โดยที่ตนเองนั่งหลัง แล้วใช้อาวุธมีดขู่บังคับอยู่ในรถ เพื่อบังคับขู่ให้ไปโรงแรม และจะให้นั่งตักไปในรถ แต่ไม่ได้จะข่มขืน จนมาถึงที่เกิดเหตุ นางสาวศุภวรรณเห็นรถขยะ แล้วขับเข้าพุ่งชน จากนั้นตนเองก็ได้หลบหนีไปที่ จ.สระบุรี และมาถูกจับกุมได้ ตั้งใจจะไปหาลุงโดยที่ลุงไม่รู้
พ.ต.ท.พูลศักดิ์ นานันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น เปิดเผยอีกว่า นายอลงกรณ์ รักษา หรือ ไผ่ อายุ 29 ปี รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงได้พาไปทำแผนประกอบเป็นหลักฐานสำนวนคดี และตั้งข้อกล่าวว่า ในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และดำเนินการตามกฎหมาย คาดว่าจะส่งตัวฟ้องต่อศาล จ.สระแก้วในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.)
—————————
