X

เริ่มแล้ว!! ผู้ว่าฯ สระแก้วออกประกาศคำสั่งเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้าน เที่ยงคืน-ตี 4 เริ่ม 5 พ.ค.นี้ เพื่อสกัดโควิดลาม

สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ออกประกาศคำสั่งเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้าน หลังเที่ยงคืน-ตี 4 เริ่ม 5 พ.ค.นี้ เพื่อสกัดโควิดลาม พบผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 359 ราย รักษาตัวอยู่ 154 ราย หายแล้ว 205 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อ 13 ราย ที่พบในพื้นที่โรงเกลือรีสอร์ต อ.อรัญประเทศ ผลการสอบสวนโรคเชื่อมโยงกับญาติชาวกัมพูชาเดินทางมาจากประตูน้ำ กทม. และมีมาตรการออกหน่วยคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในตลาดโรงเกลือและบริเวณใกล้เคียง ส่งตรวจหาเชื้อไป จำนวน 1,071 ตัวอย่าง พบเชื้อเฉพาะในที่พักโรงเกลือรีสอร์ต 13 ตัวอย่าง ไม่พบเชื้อ 748 ตัวอย่าง รอผล 300 ตัวอย่าง

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 4 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ออกคำสั่งจังหวัดสระแก้วที่ 1142/2564 ฉบับที่ 35 เพื่อกำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภาหลังมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและมีมติออกประกาศคำสั่งจังหวัดเพิ่มเติม โดยจะประกาศห้ามออกจากบ้านหรือเคหะสถานในช่วงเวลา 24.00-04.00 น.เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.64 ถึง 10 พ.ค.64 ยกเว้นผู้ที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ทำงานประกอบอาชีพ การเดินทาง ขนส่งหรือกรณีที่มีเหตุผลสำคัญเท่านั้น เพื่อให้เกิดผลดีกับชุมชนและง่ายต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ไม่ให้มีการระบาดของโรคลุกลามไปมากในกว่าปัจจุบัน ซึ่งบรรยากาศพื้นที่เทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ภายหลังจังหวัดสระแก้วออกประกาศดังกล่าว พบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาตั้งแต่ 23.00 น.เป็นต้นไป มีปริมาณรถสัญจรบนท้องถนนในพื้นที่เทศบาลน้อยมาก ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม เริ่มทยอยปิดร้านตามคำสั่งของ สบค. พื้นที่ในชุมชนต่าง ๆ ชาวบ้านอยู่แต่ภายในบ้าน เช่นเดียวกับที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ส่วนใหญ่ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวจะ “ห้ามประชาชนในจังหวัดสระแก้วออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักของตนระหว่างเวลา 24.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น” ดังต่อไปนี้ (1) การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ช่วยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งต่าง ๆ ของทางราชการ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือพลเรือนซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (2) การสาธารณสุข ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้มีความจำเป็นต้องพบแพทย์และผู้ดูแลบุคคลดังกล่าว หรือแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติงาน (3) การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้แก่ ผู้ขนส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ หรือสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก (4) การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน ได้แก่ ผู้ขนส่งหรือขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศของทางราชการหรือของตนเองเพื่อการเฝ้าระวังหรือกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือผู้เดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยานหรือสถานที่ขนส่งตามที่ทางราชการอนุญาตและให้เปิดทำการได้

และ (5) การบริการหรือการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ได้แก่ ผู้บริการคนไร้ที่พึ่ง ผู้บริการเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้บริการส่งสินค้าหรืออาหารตามสั่ง ผู้บริการตรวจสอบ หรือซ่อมบำรุงไฟฟ้า ประปา ระบบระบายน้ำ ระบบท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ผู้บริการจัดเก็บและกำจัดขยะมูลฝอย ผู้บริการซ่อมแซมและปรับปรุงโครงข่ายและอุปกรณ์ในการสื่อสารโทรคมนาคม ผู้บริการด้านธนาคาร ตลาดทุน ประกันภัย การกู้ภัย การป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ ผู้จำเป็นต้องดำเนินการในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือพนักงานสอบสวน (6) การประกอบอาชีพซึ่งจำเป็นต้องกระทำภายในช่วงเวลาพิเศษ ได้แก่ ผู้เข้าออกเวรยาม กะ หรือการทำงานตามผลัดเวลาที่กำหนดไว้ตามปกติของทางราชการ เอกชน โรงงาน หรือการดูแลรักษาความปลอดภัย (7) เหตุจำเป็นอื่น ๆ โดยได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะรายจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ซึ่งในกรณีตาม (1) ถึง (6) ให้บุคคลที่มีความจำเป็นดังกล่าวแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่น และเอกสารรับรองความจำเป็น เอกสารเกี่ยวกับสินค้า บริการ การเดินทาง หรือหลักฐานอื่น ๆ ต่อเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดรวมถึง การยอมรับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สำหรับกรณีตาม (7) ให้แสดงเหตุจำเป็นพร้อมทั้งหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ หัวหน้าสถานีตำรวจหรือผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุญาต เมื่อพบผู้ไม่ปฏิบัติตามให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือน และสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตาม ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดสระแก้วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ต่ำที่สุดตั้งแต่มีการระบาดรอบเมษายน มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลและการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทำให้การระบาดระลอกเมษายน มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 359 ราย รักษาตัวอยู่ 154 ราย หายแล้ว 205 ราย เมื่อจำแนกตามสถานที่และการติดเชื้อพบว่าส่วนใหญ่ได้รับเชื้อมาจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้อยละ 45.68 รองลงมาเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน ร้อยละ 25.35 ติดเชื้อจากไปร่วมงานบวช งานแต่ง ร้อยละ 11.98 จากการรวมกลุ่มสังสรรค์ ดื่มสุรา ร้อยละ 8.64 และอื่นๆ ร้อยละ 8.36 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ รายแรกเป็นชายอายุ 47 ปี อาชีพเกษตรกร อยู่ที่ อ.คลองหาด ได้รับเชื้อมาจากภรรยาซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ที่ไปร่วมงานบวชที่บ้านสันติสุข อ.อรัญประเทศ แล้วมาร่วมสังสรรค์ดื่มสุราในหมู่บ้าน สามีจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงและกักตัวเองที่บ้าน เนื่องจากต้องเลี้ยงแพะ จนกระทั่งตรวจพบเชื้อในเวลาต่อมา ส่วนผู้ติดเชื้ออีกรายเป็นหญิง อายุ 30 ปี อาชีพพนักงาน ภูมิลำเนาอยู่บ้านสันติสุข อ.อรัญประเทศ หมู่บ้านที่มีการจัดงานบวชและมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อ 13 ราย ที่โรงเกลือรีสอร์ต อ.อรัญประเทศ จากการสอบสวนโรคพบมีประวัติเชื่อมโยงกับญาติชาวกัมพูชาเดินทางมาจากประตูน้ำ กทม. มาพักค้างที่ดังกล่าวก่อนเดินทางข้ามไปประเทศกัมพูชาแล้วตรวจพบเชื้อโควิดที่ฝั่งกัมพูชา จึงได้ออกหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุก ณ โรงเกลือรีสอร์ต พบผู้ติดเชื้อ 13 ราย จากนั้นมีมาตรการออกหน่วยคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในตลาดโรงเกลือและบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ โรงเกลือชุมชน 200 ห้อง, โรงเกลือรีสอร์ต, ตลาดหลังคาฟ้า, ตลาด อบจ. ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.- 3 พ.ค. ส่งตรวจหาเชื้อไปจำนวน 1,071 ตัวอย่าง พบเชื้อเฉพาะในที่พักโรงเกลือรีสอร์ต 13 ตัวอย่าง ไม่พบเชื้อ 748 ตัวอย่าง รอผล 300 ตัวอย่าง สรุปพบเชื้อแค่บริเวณที่พักแต่ยังไม่พบเชื้อในตลาดโรงเกลือ

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"