ปราจีนบุรี – คนร้ายก่อเหตุยิงคู่อริ ดับ 2 เจ็บ 2 ราย หน้าห้างดัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังนัดเคลียร์ปัญหากันไม่ลงตัว
เมื่อเวลา 18.10 น.วันที่ 8 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ บริเวณหน้าห้างแมคโคร สาขากบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย โดยหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ซึ่งภายหลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.สุชาติ แย้มศักดิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวน ออกตรวจสอบ พบผู้ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ที่ รพ.กบินทร์บุรี จำนวน 2 ราย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ผู้เสียชีวิตรายแรกชื่อ นายพงศธร แคนดอก อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233/9 บ้านถนนทอง ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ห่างกัน 50 เมตร ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิติไกร พรมจันทร์ บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 7 ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สภาพศพทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ศีรษะและลำตัว นอนหงายอยู่ริมถนน
ข่าวน่าสนใจ:
- "ทักษิณ"ติดธุระงดร่วมงานบรรจุศพ สจ.โต้ง ส่วน สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้งจะลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- ปราจีนบุรี ลูกจ้าง อบต.10 คน ถวายหัวหมู หลังถูกเลขเด็ด 2 ตัวตรง
- คนงานรับเหมาถูกเพื่อนโกหก ทิ้งงาน ไม่มีเงินกลับบ้าน จ.ปราจีนบุรี
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บรายแรกชื่อเล่นว่า อาร์ม ถูกยิงที่แขนบาดเจ็บ ส่วนรายที่สอง ชื่อเช่นว่า กลด ถูกยิงที่ไหล่ ถูกนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้ก่อเหตุครั้งนี้คือ นายอภินันต์ ไม่ทราบนามสกุล ได้หลบหนีเข้าป่าละเมาะออกจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 200 เมตร ตำรวจและกู้ภัยฯระดมค้นหาตัวอยู่ ทั้งนี้ แฟนสาวของผู้เสียชีวิตขอสงวนชื่อนามสกุล ทราบว่า ได้นัดกันมาเคลียร์ปัญหาให้น้องชายที่ทำงาน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคาดว่า คุยกันไม่ลงตัว จึงถูกฝ่ายตรงข้ามชักปืนยิงใส่กลุ่มที่มาด้วยกัน 4 คน บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
————————-
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: