สระแก้ว – พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาจากกัมพูชาเพิ่มอีก 28 ราย รวมติดเชื้อเดินทางมาจากปอยเปต 471 ราย เกือบเท่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดที่มีจำนวน 476 ราย สะสมรวมทั้งหมด 977 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ (5 มิ.ย.64) จ.สระแก้ว พบตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ 28 ราย เป็นการติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศหรือเดินทางมาจากกัมพูชาเพิ่มขึ้นอีก 28 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา สะสมอยู่ที่ 471 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด สะสมยอดผู้ติดเชื้อในจังหวัด 476 ราย รวมผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งหมด 977 ราย กำลังรักษา 335 ราย รักษาหายแล้ว 637 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย
ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขแจ้งประชาสัมพันธ์ ขอให้ผู้ที่เดินทางโดยรถตู้โดยสาร สายโรงเกลือ-พัทยา และ โรงเกลือ-หมอชิต เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 64 โดยเฉพาะสาย “โรงเกลือ-พัทยา” เวลา 07.00 -07.30 น. ออกจากตลาดโรงเกลือมาลงที่ หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว มีผู้โดยสาร 4 คน รวมคนขับ และสาย “โรงเกลือ-หมอชิต” เวลา 10.00-10.30 น. ออกจากหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว มาลงสี่แยกสามทหารกบินทร์บุรี ผู้โดยสาร 4 คน รวมคนขับ ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน หรือหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกของแต่ละอำเภอ อย่างเร่งด่วนด้วย
ทางด้าน นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงสถานการณ์โควิด19 บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าคนไทยที่ทำงานฝั่งปอยเปตยังคงกังวลและขอกลับประเทศต่อเนื่อง ซึ่งมีคิวต่อเนื่องไปถึง 2 สัปดาห์ อยากจะกลับมาเร็ว เราเชื่อว่า สาธารณสุขฝั่งกัมพูชาก็มีคุณภาพ แต่ด้วยความห่วงใยของญาติ ของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกกลับมาใกล้ชิดกัน กระบวนการของจังหวัดก็อยากให้คนที่จะกลับเข้ามาตามกระบวนการที่ถูกต้อง คือต้องขึ้นทะเบียนไว้กับสถานทูตฯ จังหวัดก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำคนกลับเข้ามาที่ด่าน เพื่อนำมาตรวจและเข้ารับการรักษาหากติดเชื้อ ถ้าไม่ติดเชื้อก็ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งมีเตียงใน รพ.และ รพ.สนาม รองรับได้ประมาณ 900 เตียง และสถานที่กักตัวที่กระจายไปในแต่ละอำเภอทั้ง 9 พื้นที่ สามารถรองรับคนไทยได้ แต่ต้องยอมรับว่า คนล้นจากสัปดาห์ละ 3 วัน เป็นสัปดาห์ละ 5 วัน มีการลงทะเบียนล่วงหน้าไป 2 อาทิตย์ สิ่งที่เรากังวลคือ คนที่อยากกลับเร็วแล้วรอไม่ไหว แล้วไปหาช่องทางอื่น ซึ่งไม่ดีทั้งผู้กลับเข้ามาและภาพรวมของสังคม
————————-
