สระแก้ว – เกิดเหตุเพลิงไฟไหม้ที่บริเวณโกดังน้ำเพชร พื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 14 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1205 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณโกดังน้ำเพชร ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ใกล้กับตลาดมิตรภาพชายแดนไทย-กัมพูชา หรือตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หากจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 200-300 เมตร ซึ่งหลังรับแจ้งจึงประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำไปยังเทศบาลเมืองอรัญประเทศ, เทศบาลตำบลป่าไร่ และพื้นที่ใกล้เคียง มาสนับสนุนในการดับเพลิง พร้อมทั้งประสาน พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ฮะกาว รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก และ พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ สวป.สภ.คลองลึก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ มีกลุ่มควันและมีแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งที่บริเวณโกดังน้ำเพชร มีสินค้ารวมกันอยู่เป็นจำนวนมากและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงบริเวณด้านในได้ เนื่องจากมีเปลวไฟโหมลุกไหม้รุนแรงมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศ และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 10 คัน ระดมกันเข้าล้อมโกดังไว้ เพื่อฉีดน้ำเข้าไปภายในอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชม.เศษ จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้
หลังเกิดเหตุ นายวินัย โตเจริญ นายอำเภออรัญประเทศ ได้เดินทางมาบัญชาการ ณ จุดเกิดเหตุ มีหน่วยที่เข้าระงับเหตุประกอบด้วย เทศบาลตำบลป่าไร่ , เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ,อบจ. สระแก้ว , อบต.หนองสังข์ , เทศบาลตำบลบ้านใหม่หนองไทร ,มทบ.19 ,มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมสถานอรัญประเทศ ,กู้ภัยอรัญประเทศ และ สนง.ปภ.จ.สระแก้ว เบื้องต้นทรัพย์สินในโกดังเสียหายทั้งหมด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเพลิงสงบ เวลาประมาณ 23.40 น.
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า โกดังที่เกิดเหตุ เป็นโกดังที่ 10 โดยเพลิงได้ลุกไหม้โกดังเก็บสินค้า ชื่อน้ำเพ็ชร พิกัด TA351135 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ตรงข้าม Big C สาขาตลาดโรงเกลือ มีนายกิม เฮง ชาวกัมพูชา เป็นผู้เช่าเก็บสินค้า ประเภทพรมปูนั่ง ,อาสนะพระ และสินค้ามือหนึ่งประเภทผ้าห่มจำนวนมาก โดยจะมีคนงานชาวกัมพูชา 2 คน เป็นคนนอนเฝ้า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงได้แล้ว ซึ่งไฟไหม้ไปทั้งหมด 2 คูหา (K72 ,K73 จำนวน 10 ห้อง) ค่าเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท
—————————-
