สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มีคำสั่งให้ตั้งจุดตรวจถนนสายหลักทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าจังหวัดสระแก้ว เพื่อคัดกรองคนที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง 15 จังหวัด พร้อมทั้งออกคำสั่งจังหวัด ฉบับที่ 41 ให้ท้องถิ่นและแต่ละอำเภอ เร่งจัดเตรียมสถานที่กักกันโรคสำหรับคนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว และมีความเป็นห่วงถึงการเดินทางกลับเข้ามาของแรงงาน ทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดสระแก้ว ที่อาจมีการแพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้างได้ โดยนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งจังหวัดเป็นฉบับที่ 41 ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มมาตรการสูงสุด ตั้งจุดตรวจคัดกรองบนถนนสายหลักที่มุ่งหน้าเข้าจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งหมด 5 เส้นทาง โดยเฉพาะคนที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด (กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้) รวมทั้งพื้นที่สีแดงอีก 5 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา สระบุรี เพชรบุรี ชลบุรี ตรัง)
ทั้งนี้ แนวทางในการปฏิบัตินั้น ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง จะต้องลงจากรถทำการตรวจวัดอุณหภูมิ และแจ้งสถานที่ปลายทาง เมื่อเข้าไปถึงในพื้นที่แล้ว จะไม่สามารถกลับเข้าบ้านพักได้ แต่จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และทำการตรวจวัดหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ครั้ง ตามสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด เบื้องต้น อาจใช้พื้นที่วัดหรือหอประชุมกลางหมู่บ้าน ส่วนจังหวัดพื้นที่สีส้มอีก 9 จังหวัด และจังหวัดพื้นที่สีเหลือง 53 จังหวัดนั้น ให้คัดกรองอย่างเข้มข้นเช่นกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 9,844 รายการ จ.สระแก้ว
- ตำรวจระดมกวาดล้างหนี้นอกระบบและรับจำนำรถผิดกฎหมาย จ.สระแก้ว
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้เน้นย้ำในที่ประชุมด้วยว่า ให้นายอำเภอทั้ง 9 อำเภอ เร่งสำรวจจำนวนประชากรที่ออกไปทำงานนอกเขตจังหวัด เพื่อจะได้รู้ถึงจำนวนคนที่จะเดินทางกลับเข้ามา ซึ่งจะทำให้สามารถนัดแนะกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เมื่อกลับเข้ามาถึงภูมิลำเนาของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หอประชุมเทศบาลเมืองวังน้ำเย็นวันนี้ ได้มีประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองวังน้ำเย็นเกือบ 1,000 คน ที่ค้าขายและเดินทางไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดเช้าเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น และตลาดเย็น ตลาดคลองถมวังน้ำเย็น ภายหลังพบผู้ติดเชื้อเป็นแม่ค้าขายปลาในพื้นที่ติดเชื้อโควิด-19 และต้องกักตัวบุคคลใกล้ชิดจำนวนมาก โดยมีรายงานด้วยว่า มีนักเรียนชายและหญิงจาก ร.ร.วังน้ำเย็นวิทยาคม ประมาณ 13 คน ที่ไปช่วยเหลือแม่ค้าปลารายดังกล่าวขายของทุกวันเข้ารับการตรวจด้วย นอกจากนั้น นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ได้มีคำสั่งปิดสถานศึกษาในสังกัด 8 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์เด็กเล็ก, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนเทศบาลมิตรสัมพันธ์วิทยา และโรงเรียนมัธยมเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการเตรียมรับมือกลุ่มเสี่ยงจากจังหวัดพื้นที่สีแดงเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดนั้น ภายหลังรัฐบาลประกาศล็อคดาวน์แคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล นายอำนาจ พิพิธกุล กำนันตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น เปิดเผยว่า ทางตำบลได้รับคำสั่งจากอำเภอและจังหวัด ให้ตั้งศูนย์รับรายงานตัว ของผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ โดยทุกคนต้องมารายงานตัวที่ รพ.สต.ทุกคน โดยมีผู้ใหญ่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรับผิดชอบในหมู่ของตนเอง เตรียมตัวรับกับการกลับมาของพี่น้องที่ไปใช้แรงงานในต่างจังหวัดหรือ กทม. เพื่อที่จะได้สอบสวนโรคและกักตัวตามมาตรการของสาธารณสุข ขณะนี้มีผู้มารายงานตัวแล้วเกือบ 20 คนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นอกจากนั้น วันนี้ยังมีการตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก (ACF) ทั้งอำเภอวังน้ำเย็น ห้วงเวลาช่วงเช้า 08.30-11.30 ทีม 1 จุดวัดคลองตาสูตร ต.คลองหินปูน เป้าหมาย 200 ราย ,ทีม 2 จุดเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น เป้าหมาย 200 ราย ,ช่วงบ่าย 13.00-15.00 ทีม 1 จุดโดม อบต.ตาหลังใน ต.ตาหลังใน เป้าหมาย 200 ราย, ทีม 2 จุดวัดทุ่งมหาเจริญ เป้าหมาย 200 ราย รวมยอดเป้าหมาย 800 ราย ด้วยเช่นกัน
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ 0 / 5. จำนวนโหวต: 0