สระแก้ว – ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ชาวนาจำนวนมากไม่ได้ผลผลิต บางรายทำนา 29 ไร่ คาดว่าจะได้ข้าวไม่ถึง 10 กระสอบ เจ้าหน้าที่ระบุพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว นาข้าวเสียหายกว่าครึ่ง หลังข้าวขาดน้ำ ออกรวงแต่ไม่มีเมล็ด ชาวนาบางรายปล่อยให้วัวกิน ขณะที่กรมฝนหลวงและการกินเกษตรคาดปีหน้าจะแล้งหนักกว่าเดิม
นางแป้น หอมหวาน วัย 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 ม.3 บ้านหนองปรือ ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าของนาข้าวเนื้อที่ 29 ไร่ กำลังนั่งดูนาข้าวหอมมะลิที่กำลังออกรวงและอยู่ในสภาพขาดน้ำ ซึ่งส่วนหนึ่งได้ตัดใจปล่อยทิ้งแล้ว พร้อมกับให้ชาวบ้านนำวัวเข้าปล่อยหลังแห้งตาย ส่วนข้าวที่เหลือคาดการณ์ว่า จะได้ข้าวเปลือกไว้กินปีนี้แค่ประมาณ 10 กระสอบ เพราะข้าวออกรวงแต่ไม่มีเมล็ด
นางแป้น บอกว่า ปีที่แล้วได้ข้าว 100 กระสอบ แต่ปีนี้เสียหายมากกว่าจะได้ ไม่รู้ว่าจะได้ถึง 10 กระสอบหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เพราะปัญหาภัยแล้ง ลงทุนไปครึ่งค่อนแสนบาท จ้างไถ หวานและฉีดยา แต่ก็ตายหมดหลายแปลง เพราะไม่มีน้ำ ไม่รู้จะทำอย่างไร ทุก ๆ รายก็เป็นเหมือนกันหมด
ส่วน น.ส.ปาริสรา เทียมสง่า อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ม.1 ต.ทัพราช บอกว่า ทำนาปีนี้จำนวน 40 ไร่ ส่วนหนึ่งได้เป็นอาสาสมัครฝนหลวง ในการตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำฝนเทียมช่วยชาวนาด้วยในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ผลนัก เพราะอากาศแล้งจัด ปรากฏว่า สภาพนาของชาวบ้าน ณ วันนี้นาข้าวมีสภาพดินแห้ง ข้าวออกรวงได้ แต่ไม่มีน้ำนมข้าว เพราะดินแห้งข้าวสร้างน้ำนมไม่ได้แล้ว คิดว่า คงไม่ได้เกี่ยว ส่วนบางที่ซึ่งข้าวมีใบเขียวมีแต่ใบ แต่ไม่ออกรวง พื้นดินแห้งขาวหมด เสียหายน่าจะ 60-70 เปอร์เซ็นต์
นายสมจิตร ราชกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านโคกไพร ต.ทัพราช ก็บอกว่า ปัญหาของชาวนาในพื้นที่ อ.ตาพระยา ปีนี้คือข้าวขาดน้ำมาก ข้าวออกรวงมาแล้วก็เหี่ยวไปเลย ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเป็นส่วนใหญ่ นาข้าวที่พอจะได้ผลผลิตจะเป็นพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีน้ำอยู่เพียง 10-15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หรือนาข้าวที่มีแหล่งน้ำบ่อน้ำอยู่ใกล้ ๆ สามารถสูบเข้าไปในนาได้เท่านั้นที่จะได้ผลผลิต ซึ่ง 100 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้จะได้กันถึง 10 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า บางจุดชาวบ้านก็ต้องตัดใจปล่อยให้วัวกินแล้ว
ทั้งนี้ ตลอดช่วงเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งในอำเภอตาพระยา และเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ซึ่งจากปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้บางพื้นที่ ส่วนใหญ่เกษตรหลายแห่งได้รับผลกระทบจากสภาวะภัยแล้ง
นายประสพ พรหมมา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการอนุมัติให้ปรับแผนโดยย้ายเครื่องบิน 3 ลำ จากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มาประจำการที่ อ.วัฒนานคร สามารถขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงได้ทันทีเมื่อสภาพอากาศพร้อมตลอดช่วง 3 เดือน ซึ่งก็สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนบางส่วน ขณะนี้ถือว่าปฏิบัติการสิ้นสุดแล้ว ได้มีการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลในการรับมือภัยแล้งปีหน้า ซึ่งคาดว่า จะรุนแรงกว่าปีนี้
“ข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ อ.ตาพระยา ขณะนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เจริญเติบโตไม่เต็มที่ ขณะนี้ยังไม่การออกรวงไม่สม่ำเสมอ ไม่ดีพอ ซึ่งการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมาก็ประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่ก็มี อ.ตาพระยา อำเภอเดียว โดยเฉพาะในพื้นที่ดอนก็ประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งเกษตรกรอยากให้เราช่วยเหลือในปีต่อ ๆ ไปไม่อยากให้เป็นเช่นนี้อีก” ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดสระแก้ว วันนี้ (14 พ.ย.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียนเข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งฝนหลวง ในเนื่องใน“วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีด้วย
