ปราจีนบุรี – พบโรคลัมปี สกิน ระบาดในวัวพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านแจ้งว่า พบลูกวัวเพศเมียสีขาว อายุ 2 ปี มีตุ่มขึ้นตามตัวอาการเซื่องซึม ไม่กินหญ้า นายอุดร สีเนียม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เลี้ยงวัวไว้ 2 ตัว และออกลูก 4 ตัว เมื่อ 2 วัน ที่ผ่านมา วัวเพศเมียตัวดังกล่าว มีอาการเจ็บขา ไม่กินหญ้า จึงสำรวจดูพบว่า มีตุ่มขึ้นตามตัว ลูกสาวบอกว่า ลูกวัวคล้ายเป็นโรคลัมปี สกิน ในวัว จึงสอบถามคนที่เลี้ยงวัวและซื้อยาเขียวมาผสมน้ำให้กินลูกวัวอาการดีขึ้น แต่ไม่น่าไว้ใจ วันนี้จะไปพบปศุสัตว์อำเภอ เพื่อให้มาฉีดวัคซีนให้วัวเกรงว่า จะแพร่ระบาดสู่วัวในคอกเดียวกัน
สำหรับโรคลัมปี สกิน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สำคัญในโคกระบือ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัส 𝘓𝘶𝘮𝘱𝘺 𝘴𝘬𝘪𝘯 𝘥𝘪𝘴𝘦𝘢𝘴𝘦 𝘷𝘪𝘳𝘶𝘴 ในสกุล 𝘊𝘢𝘱𝘳𝘪𝘱𝘰𝘹𝘷𝘪𝘳𝘶𝘴 อาการสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต และมีตุ่มขนาดใหญ่ ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอันฑะและหว่างขา ตุ่มที่ขึ้นอาจแตก ตกสะเก็ดและเกิดเป็นเนื้อตาย หรือมีหนอนแมลงมาไชได้ อาจพบตุ่มน้ำใสขึ้นที่เยื่อเมือก ทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ทำให้มีอาการน้ำลายไหล ตาอักเสบ มีตุ่มขึ้นที่เยื่อเมือกตา น้ำตาไหลและมีขี้ตา นอกจากนี้ สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร อาจมีภาวะเป็นหมันชั่วคราวหรือถาวร แท้งลูกและมีปริมาณน้ำนมลดลง อัตราการป่วยอยู่ที่ 5-45 % อัตราการตายน้อยกว่า 10% แต่อาจมีอัตราการตายสูงในพื้นที่ที่ไม่เคยมีการระบาดมาก่อน
ทั้งนี้ สำหรับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผลผลิตที่ลดลง การติดต่อของโรคนี้ ติดจากแมลงดูดเลือด เช่น เห็บ ยุง แมลงวัน และอาจติดจากการสัมผัสใกล้ชิดกันของสัตว์ ติดจากน้ำลาย สารคัดหลั่ง สะเก็ดแผล รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ร่วมกันวิธีการป้องกันโรค คือ การกำจัดและป้องกันแมลงในพื้นที่ ทำความสะอาดคอก และอุปกรณ์ในการเลี้ยง และกักสัตว์ใหม่ก่อนนำเข้าพื้นที่ โรคนี้ไม่มีการรักษาจำเพาะ ทำได้เพียงรักษาตามอาการหากพบสัตว์มีอาการต้องสงสัย ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมโรคต่อไป
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา มีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: