ปราจีนบุรี – คุณยาย ผู้พิการทางสายตา ท้อนักข่าวขอเงินทอน หาสร้างบ้านผู้ยากไร้ ผู้พิการ ในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจข่าวปราจีนบุรี ได้ตีแผ่มีบุคคลอ้างเป็นสื่อบางสื่อ บางสำนัก เข้าไปเสาะแสวงหาบ้านผู้ยากไร้ ผู้พิการ โดยอ้างเพื่อจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้พิการ ในการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยให้บุคคลเหล่านั้น หลังจากหาผู้ยากไร้ ผู้พิการได้แล้ว จึงพาเขาไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร เพื่อลงในสื่อออนไลน์นั้น ๆ เพื่อขอรับการบริจาค หรือขอรับการสนับสนุนผ่านบัญชีของผู้ยากไร้หรือผู้พิการ เพื่อนำเงินมาช่วยสร้างบ้านพักให้แก่ผู้ยากไร้ หลังจากได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีมาส่วนหนึ่งแล้ว บุคคลที่อ้างตัวเป็นสื่อ ก็ให้ผู้ยากไร้สั่งอุปกรณ์ก่อสร้างบ้านมาทำการก่อสร้าง แล้วทำการไลฟ์สด เพื่อเรียกร้องขอรับบริจาคเงินเพิ่ม หลังได้รับเงินโอนมาแล้วเป็นจำนวนมาก สื่อก็ได้มาขอเงินผู้ยากไร้ไปครั้งละ 1-2 หมื่นบาท คิดว่า เป็นเงินทอน โดยในก่อนหน้าไม่มีข้อตกลงกันมาก่อน จึงได้มาขอรับเงินทอนจาก คุณยายทองสา ซึ่งสายตาคุณยายไม่ค่อยดี มาขอไปครั้งละ 1-2 หมื่นบาท จำนวน 3 ครั้งเกือบ 6 หมื่นบาท
ทั้งนี้ เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ. ปราจีนบุรี จึงมีการฝากเตือนไปยังผู้ยากไร้ ผู้พิการ หากท่านจะขอความช่วยเหลือในรายต่อ ๆ ไป ควรขอผ่าน อบต.หรือฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยตรง จะเป็นการดีที่สุด และจะไม่มีความผิดด้าน พรบ.เรี่ยไรฯ ด้วย ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้าน คุณยายทองสา ขำชัยภูมิ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 6 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่มีสื่อบางสำนักเข้าไปทำการช่วยเหลือ สร้างบ้านให้เนื่องจากเป็นผู้ยากไร้ ผู้พิการทางสายตา อยู่บ้านเพียงลำพัง
ข่าวน่าสนใจ:
โดยคุณยายทองสา เล่าว่า มีนักข่าวเข้ามาทำข่าวให้จริง หลังจากนั้นได้มีการมาขอเงินจากตนเองไปเป็นเงินจำนวนมาก ครั้งแรก 35,000 บาท ครั้งที่ 2 ขอ 15,000 บาท ครั้งที่ 3 มาขออีก 20,000 บาท คุณยายไม่มีให้จึงให้ไปแค่ 15,000 บาท นักข่าวคนดังกล่าว บอกว่า ใช้รถตู้และรถเก๋งมา บอกว่า ขอเงินเพื่อที่จะไปให้หัวหน้าหรือลูกพี่ และเอาไปเป็นค่าซ่อมรถ ครั้งล่าสุด มาหาที่บ้านอีก ตนบอกว่า อบต.กับตำรวจเข้ามาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วนักข่าวคนดังกล่าวจึงขับรถเก๋งออกจากบ้านไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังสื่อบางสำนักตามพี่คุณยายบอก ทราบว่า นักข่าวคนดังกล่าวนั้นมีตัวตนจริง จึงประสานไปยังนักข่าวชื่อย่อ(น) ติดต่อทางโทรศัพท์ เจ้าตัว บอกว่า เข้าไปทำข่าวจริงและไม่มีส่วนรู้เห็นในการขอเงินจากคุณยายตามที่คุณยายกล่าวอ้าง ซึ่งมีนักข่าวไปหลายคน ไม่รู้ว่าเป็นใคร ยอมรับว่า ตัวเองเข้าไป 1-2 ครั้ง เพื่อไปสอบถามความคืบหน้าในการสร้างบ้านเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอเงินจากคุณยายตามที่กล่าวอ้าง ข้อมูลที่ทราบมา ทางรองนายก อบต.และนิติกรของ อบต.เข้าไปจดบันทึกปากคำคุณยายไว้แล้ว ซึ่งตรงกับที่คุณยายบอก เจ้าตัวยังคงยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอเงินจากคุณยายตามที่คุณยายกล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ นักข่าวคนดังกล่าวจะกลับจากกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดี จึงจะเข้าไปสอบถาม อบต. และขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ที่ถูกกล่าวมานั้นไม่เป็นความจริง ทำให้ตนเองเสียหาย
————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: