สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจากพื้นที่ตลาดโรงเกลือ หลบหนีพื้นที่กักกันกลับบ้าน 23 คน อ้างว่าต้องการกลับบ้านประเทศกัมพูชา
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง จ.สระแก้ว สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ ขณะพยายามลักลอบข้ามแดนกลับบ้านในฝั่งกัมพูชา โดยไม่ยอมผ่านกระบวนการผลักดันทางช่องอนุโลมฯ ถึงแม้รัฐบาลกัมพูชาสั่งเปิดชายแดนมาแล้วเกือบสัปดาห์ โดยหนึ่งในแรงงานกัมพูชา ยอมรับว่า ที่หลบหนีเพราะไม่อยากถูกกักตัว 14 วัน ตามมาตรการสาธารณสุขกัมพูชา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพรานที่ 1205 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา วางกำลังดักซุ่มในพื้นที่เป้าหมายตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านอำเภออรัญประเทศ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชา 10 คน ขณะกำลังเดินเท้าลักลอบข้ามแดนออกไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา บริเวณบ้านป่าไร่ใหม่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง ยังสามารถจับกุมแรงงานกัมพูชาได้อีก จำนวน 13 คน ขณะกำลังแบกกระเป๋าและสัมภาระจำนวนมาก เดินเท้าข้ามแดนมุ่งหน้าไปยังฝั่งกัมพูชา ขณะกำลังเตรียมเดินข้ามถนนศรีเพ็ญ บริเวณบ้านดงงู ในตำบลป่าไร่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะตรวจวัดอุณหภูมิ และนำตัวไปยังกองร้อยทหารพรานที่ 1205
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบแรงงานกัมพูชากลุ่มนี้ พบว่า เป็นแรงงานรับจ้างรายวันอยู่ภายในตลาดโรงเกลือ จากพื้นที่ตลาดเดชไทย ตลาด อบจ. ตลาดเบญจวรรณ และตลาดโกลเด้นเกท ที่รับจ้างซ่อมกระเป๋า เย็บผ้า และรับจ้างทั่วไป ที่ตัดสินใจหลบหนีออกมาจากพื้นที่ตลาดโรงเกลือเพื่อจะกลับบ้าน เพราะทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทำการปิดพื้นที่รอบตลาดโรงเกลือห้ามคนเข้า-ออกไปจนถึงวันที่ 24 ส.ค.นี้ จึงทำให้ไม่มีงานทำ เงินเก็บก็หมดลงไปทุกวัน จึงตัดสินใจชักชวนญาติพี่น้อง เก็บเสื้อผ้าเดินเท้าลัดเลาะออกจากตลาดโรงเกลือ จะไปข้ามแดนแถวบริเวณตำบลป่าไร่
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามทราบว่า สาเหตุที่ไม่รอการผลักดันกลับทางช่องอนุโลมแรงงานฯ หลังจากสมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยอมเปิดชายแดนมาแล้วตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะว่า ถ้าออกตามช่องทางที่กำหนด จะต้องถูกกักตัวอยู่ในฝั่งกัมพูชา 14 วัน ที่หลบหนีเพราะไม่อยากถูกกักตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้นำชาวกัมพูชาทั้ง 23 คน ส่งผลักดันออกนอกประเทศ ทางช่องโอบายเจือน ตรงข้าม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันของฝั่งกัมพูชาตามมาตรการสาธารสุข เช่นกัน
—————————-
