สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย ปิดล้อมจับกุมตัวมือแทงหัวหน้างานไม่ยั้งจนตาย สาเหตุเพราะถูกด่าบุพการีทุกวันเกือบ 8 เดือน ตั้งแต่เข้าไปทำงานเดือน ม.ค.เป็นต้นมาและถ่มน้ำลายใส่หน้า จนถึงกับน้ำตาไหลและก่อเหตุ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนถูกส่งตัวให้ สภ.ศรีมโหสถ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวันที่ 21 ส.ค.64 เวลาประมาณ 12.00 น.มีเหตุแทงกันตาย ที่ภายในบริษัท วัฒนไพศาล จำกัด ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี จนทำให้ นายอดุลย์ บึงชัยภูมิ หัวหน้างาน ถูกมีดแทงทั่วร่างเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อว่า นายสมพงษ์ บุญเพิ่ม อายุ 42 ปี ที่อยู่ 29 ม.17 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว หลังก่อเหตุได้หลบหนีพร้อมแฟนสาวมาบ้านพ่อในพื้นที่ ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ,พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.ศรีมโหสถ ,พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 13 ได้ร่วมกันประสานพื้นที่และส่งทีมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ,สภ.วังสมบูรณ์ กว่า 50 นาย ลงพื้นที่เกาะรอยและปิดล้อมพื้นที่ เพื่อตามไล่ล่าผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด
กระทั่ง เวลา 05.00 น.วันนี้(25 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายสมพงษ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ที่บ้านเลขที่ 226 ม.17 บ้านทับห้าพัฒนา ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบริเวณบ้านของบิดา จากนั้นคุมตัวมาสอบสวนและพาไปชี้จุดทิ้งมีดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ โดยรถยนต์ที่ใช้หลบหนี ได้นำไปจอดทิ้งไว้ในป่ายูคาลิปตัส ห่างจากบ้านพักประมาณ 4 กม. ส่วนจุดที่นำมีดของกลางไปทิ้ง อยู่ห่างกันออกไปประมาณ 3 กม. โดยใช้วิธีฝังไว้ใต้ดิน ท้ายสวนยาง และจุดทิ้งโทรศัพท์มือถือ อยู่ห่างจากบ้านพักที่ถูกจับกุมประมาณ 1 กม. ซึ่งภายหลังนำผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.วังสมบูรณ์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจสระแก้ว เข้าเก็บลายนิ้วมือแฝง พยานหลักฐาน ภายในรถ จำนวน 20 จุด และเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ เพื่อส่งตรวจหา DNA สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบคดีด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- มทบ.32 เสริมกำลังเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายสมพงษ์ ให้การว่า ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้เมื่อประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา เป็นแผนกช่างเชื่อม โดยผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้างานมักชอบบ่นด่าเป็นประจำ ด่าลูกน้องทุก ๆ คนไปเรื่อย กระทั่งวันเกิดเหตุ ก็มายืนด่าตนต่าง ๆ นา ด่าถึงบุพการี และถ่มน้ำลายใส่หน้า จึงมีความรู้สึกโกรธแค้น หันไปเห็นมีดพับวางอยู่ จึงคว้ามีดมาเสียบเข้าที่หน้าท้องประมาณ 3 แผล ก่อนที่แฟนจะเข้ามาห้าม แล้วขับรถหลบหนีมากับแฟนสาว โดยใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม-5397 ปราจีนบุรี ขับมาตามถนนสาย 331 ก่อนเลี้ยวเข้าบ้านนายาว-บ้านท่าเต็นท์ และเข้าสู่บ้านทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น เพื่อไปยังบ้านบิดาที่ ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ แล้วส่งแฟนสาวไว้ที่บ้านพ่อ ก่อนจะขับรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้ในป่าและทิ้งพยานหลักฐานตามจุดต่าง ๆ และหลบเข้าไปอยู่ในป่าทั้งวันทั้งคืนในละแวกนี้ โดยจะกลับมาเอาอาหารจากบ้านไปกินเพื่อประทังชีวิตกระทั่งถูกจับกุม
พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.ศรีมโหสถ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมญาติและภรรยา โดยเฉพาะพ่อของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้พูดคุยบอกให้ผู้ต้องหามอบตัว เนื่องจากการหลบหนีหรือต่อสู้ อาจถูกวิสามัญฆาตกรรมได้ ซึ่งสุดท้ายเมื่อถูกกดดันปิดล้อมหลายวัน มีตำรวจนอนและเฝ้าอยู่ที่บ้านพ่อได้ระยะหนึ่ง ผู้ต้องหาทนไม่ไหว จึงยอมให้จับกุม ทั้งนี้ ระหว่างการคุมตัวมาสอบสวนและบันทึกถ่ายภาพ พ่อของผู้ต้องหาได้มาเยี่ยมและพูดคุยกับลูกชายพร้อมจับมือเพื่อให้กำลังใจด้วย หลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานฯ ดำเนินการเก็บพยานหลักฐานเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหากลับไปที่ สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ด้วยความโมโหมาก จึงแทงเข้าไปที่บริเวณท้องคนตายหลายครั้ง ไม่ได้นับ เนื่องจากคนตายมาด่าผม ด่าโคตรพ่อโคตรแม่ผม แล้วก็ถ่มน้ำลายใส่หน้า และด่าบ่อยครั้งมาก โดยด่าทุกคน ซึ่งผมโดนบ่อยกว่าเพื่อน เขาด่าทุกเรื่อง ตั้งแต่เข้ามาทำงานเมื่อเดือน ม.ค.64 ถึงปัจจุบัน ทุกวัน ซึ่งครั้งสุดท้ายมีการถุยน้ำลายใส่หน้า ทำให้ทนไม่ได้ น้ำตาผมไหลเลย” นายสมพงษ์ บุญเพิ่ม ผู้ต้องหา เปิดใจกับผู้สื่อข่าว
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: