ปราจีนบุรี – หลานเขยฉุนป้าด่าคว้า 9 มม.ยิงบาดเจ็บ สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องที่ดินพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ร.ต.อ.วัฒนพงษ์ จำนงค์อุดม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.วังตะเคียน จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านวังดินสอ ม.19 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบลำดับชั้น พร้อมกับประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี และรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวนฯ ที่เกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 41ม.19 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.บุญทัน พันสว่าง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่หลังเกิดเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ขาขวา ผู้ก่อเหตุคือ นายวีรพงศ์ ประเสริฐสอน อายุ 33 ปี เป็นหลานเขยของผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับสารภาพว่า ยิงป้าจริงขณะถูกควบคุมตัวไว้ได้ สาเหตุในการใช้อาวุธปืนยิงป้าเนื่องจากทะเลาะเรื่องที่ดิน ที่มีปัญหาจะมาหลายปี วันนี้ก็ทะเลาะกันอีก จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3-4 นัด ปืนถูกเข้าที่ขาของจนได้รับบาดเจ็บ
นายสมคิด ขอสงวนชื่อสกุล ลูกชายของ น.ส.บุญทัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า กลับมาจากหาปลาและได้ยินเสียงแม่และหลานเขย ทะเลาะกันเสียงดัง ขณะที่แม่ยืนอยู่ข้างตนเอง ทันใดนั้นผู้ก่อเหตุหันหลังให้เสี้ยววินาทีนั้น ได้ชักปืนพกสั้นออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วยิงใส่แม่ 3-4 นัด ตกใจทำอะไรไม่ถูก จะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ที่ทะเลาะกันมาจากเรื่องที่ดิน หลังเกิดเหตุได้โทรแจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัว นายวีรพงษ์ ที่บ้านพัก ส่วน นายแผน ขอสงวนชื่อสกุล ญาติผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงคนทั้งสองทะเลาะกันอยู่หลังบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น รู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครกล้าเข้าห้าม
ทางด้าน น.ส.แจ่ม ขอสงวนชื่อนามสกุล ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะกันเรื่องที่ดิน ซึ่งทะเลาะกันมาหลายเดือนแล้ว ป้าจะด่าทุกครั้งที่มีการพูดเรื่องที่ดิน วันนี้ไม่มีใครคาดคิดแฟนของตนทนไม่ได้ เมื่อถูกด่าจึงถือปืนออกมา เพราะป้ามีไม้อยู่ในมือและใช้ไม้ฟาดพื้นดินขู่จะทำร้าย หากมีการพูดคุยเรื่องที่ดิน แฟนของตนไม่ได้ยิงใส่ป้า แต่ยิงขึ้นฟ้า เพื่อให้กลัว ส่วนการบาดแผลที่ขาของป้า น่าจะเกิดจากการหกล้มเอง หากว่าถูกยิงจริง ทำไมหนีเข้าบ้าน แล้วออกมาบอกว่า ถูกยิง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.วังตะเคียน พนักงานสอบสวนผู้ก่อเหตุนานกว่า 3 ชั่วโมง นายวีรพงษ์ว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงป้าบุญทันจริงหรือไม่ นายวีระพงษ์ ปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้ปืนยิงใส่ป้าแต่ยิงขึ้นฟ้า 2 นัดเท่านั้น เนื่องจากโมโหที่ป้าด่า ที่คุยกันเรื่องที่ดินวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุม รอส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดี
ล่าสุด ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุได้พบกับ น.ส.บุญทัน พันสว่าง ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อเช้าวานนี้ได้เรียกลูก ๆ มา เพื่อที่จะคุยเรื่องที่ดินซึ่งเป็นที่ดินมรดกที่จะแบ่งให้กับลูก ๆ 5 คน จะแบ่งให้คนละ 50 ตารางวา ใครจะทำอะไรก็จะได้ทำ แบ่งให้เป็นสัดส่วน ขณะนั้นหลานเขยทำท่าไม่พอใจพูดจาเสียงดัง จากนั้นเดินเข้ามาหาตนและใช้อาวุธปืนยิงรัวใส่หลายนัด กระสุนปืนถูกที่ขาขวาทะลุ ล้มลงกองกับพื้นหลังบ้าน เห็นลูกเขยบรรจุกระสุนใส่อีก จึงกราบหลานเขย แล้วเข้ามาในบ้านล้างแผล และบอกลูกและหลานว่า ถูกยิงจากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ พูดเรื่องที่ดินทีไร หลานเขยจะเสียงดังไม่พอใจทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม น.ส.บุญทุน กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุมีญาติกันมาขอร้อง เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง จะขอเคลียร์ให้จบกันไป ตนไม่ยอมให้จบแค่นี้ ให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่าหลานเขยพยายามฆ่าตัวเอง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้ตนรอดจากความตายมาได้อย่างไร ขณะเกิดเหตุคิดว่า หลานเขยต้องยิงตัวเองตายแน่ ๆ เพราะยิงหลายนัดและมีลูกปืนเต็มกำมือ โดยพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยใช่เหตุ
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
