สระแก้ว – ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฯ คุมเข้มชายแดนสระแก้วสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวและคนไทยลักลอบเข้า-ออกชายแดน และขบวนการโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
ปัญหาการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายเกิดขึ้นทุกวันในพื้นที่ จ.สระแก้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชาลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งส่วนใหญ่มีขบวนการลักลอบอยู่เบื้องหลัง มีค่าหัวรายละตั้งแต่ 4,000-9,000 บาท ขณะที่คนไทยที่ต้องการออกไป เพื่อทำงานแอดมินบ่อนออนไลน์และธุรกิจสีเทาฝั่งกัมพูชา โดยใช้แรงจูงใจเรื่องรายได้ที่สูงเกิน 20,000 บาท และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการข้ามแดนใด ๆ จูงใจให้มีการลักลอบออกนอกประเทศจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งเบื้องหลังมีการทำกันเป็นขบวนการ ในการนำพาคนไทยไปยังกัมพูชาชัดเจน ทำให้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ลดลง ปรากฏให้เห็นชัดเจนคือ การแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 คลัสเตอร์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพื้นที่ตลาดโรงเกลือกว่า 3,000 คน แม้จะมีหน่วยงานหลายหน่วยที่ประจำการตามแนวชายแดน อาทิ ทหารพราน , ตชด. ,ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พยายามสกัดกั้นตามลำดับอย่างเต็มที่ เพื่อหวังว่า จะหยุดการแพร่เชื้อโดวิดและปัญหาอาชญากรรมอื่น ๆ ให้ได้ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนัก
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยถึงปัญหานี้ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ในส่วนจังหวัดสระแก้วมีพื้นที่แนวชายเดนติดกับประเทศกัมพูชา มีเส้นทางธรรมชาติและยาวกว่า 165 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ที่กลุ่มคนไทยและชาวกัมพูชามักใช้ข้ามผ่านแดนโดยผิดกฎหมายนั้น จะอยู่ในพื้นที่ อ.โคกสูง อ.ตาพระยา เพราะว่ามีแต่พื้นที่ราบและพื้นที่การเกษตรติดต่อกัน จึงง่ายต่อการลักลอบ โดยมีถนนศรีเพ็ญเป็นถนนเลียบแนวชายแดน มีกองกำลังบูรพาเป็นหน่วยงานที่ลาดตระเวนแนวตะเข็บชายแดน ซึ่งในส่วนของตำรวจกูธรจังหวัดสระแก้ว จะรับผิดชอบพื้นที่ชั้นใน ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งการมอบนโยบาย ให้ทำการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในห้วงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.จว.สระแก้ว นำกำลังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าทำงานเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว (นปพ.ภ.จว.สระแก้ว) และกำลังพลหมุนเวียนตาม สภ.ต่างในพื้นที่ชั้นใน ไปตั้งฐานปฏิบัติการพิเศษที่แนวชายแดนชั้นใน
ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ยังระบุด้วยว่า พล.ต.ท.รอย อิงค์ไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รรท.ผบช.ภ.2) ได้สั่งการให้เสริมความเข้มแข็งและหลักการวิธีการทำงานการปฏิบัติตนกับประชาชนคนต่างด้าวขณะจับกุมอย่างไร โดยทำโครงการทำการฝึกทบทวนยุทธวิธี การใช้อาวุธ การเข้าตรวจค้น การเรียกตรวจรถต้องสงสัย หรือบุคคลต้องสงสัย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองและให้เป็นไปตามหลักสูตรของการตรวจค้น และในส่วนของการออกลาดตระเวน ตามเส้นทางตามแนวชายแดนพื้นที่อำเภอโคกสูงและอำเภอตาพระยา การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามเส้นทางสำคัญ ๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงการลักลอบขนแรงงาน โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าครอบคลุมพื้นที่ที่มีการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวและคนไทย ที่จะลักลอบเข้า-ออกผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ ระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อจะสามารถป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 รวมไปถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชุดปฏิบัติการพิเศษฯดังกล่าว จะประจำตามจุดที่มีการลักลอบข้ามแดนและจุดพักคอยตามหมู่บ้านแนวชายแดนจนกว่าสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 จะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ที่ผ่านมาสามารถจับกุมกลุ่มลักลอบข้ามแดนคนไทยได้วันเดียว 36 คน สกัดจับกลุ่มลักลอบนำรถจักรยานยนต์ข้ามชายแดนได้ 2 พื้นที่ ซึ่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แจ้งเตือนไปยังกลุ่มบุคคลหรือคนไทยที่คิดจะเดินทางข้ามชายแดนว่า “ฝากเตือนไปยังผู้กระทำผิด รู้เห็น หรือสนับสนุน นำแรงงานเข้ามาในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง หรือมีการลักลอบนำคนที่จะไปทำในประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบออกไป จะฝากเตือนว่า ขอให้ยุติความคิดที่จะกระทำผิดตรงนี้ เพราะมันส่งผลกระทบต่อเรื่องของความมั่นคงและปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ระดมกำลังมาทำงานเต็มที่ ท่านกล้าที่จะกระทำความผิด โอกาสที่จะถูกจับกุมดำเนินคดีก็มีสูงมาก เพราะฉะนั้น ก็ขอเตือนให้เลิกพฤติกรรมและยุติบทบาท ฝากเตือนไปถึงกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังยังมีการเคลื่อนไหว ยังพยายามที่จะกระทำผิดอยู่ เราจะมีการใช้มาตรการกฎหมายที่เข้มข้นและจริงจังที่สุด”
—————————–
