สระแก้ว – ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว หอบหลักฐานเข้าแจ้งความถูกญาตินักการเมืองท้องถิ่นหลอกลวงให้ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว กู้เงินแสน ผ่านแอพฯของธนาคารกสิกรไทย หรือ เคพลัส ยังไม่ได้เงิน แต่หลังเวลาผ่านไป 2 เดือน กลับมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารให้ชำระหนี้ งวดละเกือบ 7,000 บาท เป็นหนี้ไม่รู้ตัวคนละ 2-3.7 แสนบาท
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเนินสง่า พื้นที่หมู่ 13 และชาวบ้านคลองน้ำใส หมู่ 2 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เดินทางมาที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งความกับ ร.ต.ท.(หญิง)เกศรินทร์ วีระพันธุ์ ร้อยเวร สภ.เมืองสระแก้ว ระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยหลอกลวงให้กู้เงินหลักแสน ผ่านการสมัครทางแอพพลิเคชั่น เคพลัส ของธนาคารกสิกรไทย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว ก็สามารถกู้เงินแสนออกมาได้ แต่ผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน ขณะที่ยังไม่ได้เงิน กลับมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารกสิกรไทย ให้ไปชำระหนี้งวดละ 6,000-7,000 บาท ส่วนชาวบ้านบางรายเมื่อไปติดต่อธนาคารสาขาสระแก้ว พบว่า มียอดค้างชำระหนี้เงินต้นกับธนาคารตั้งแต่ 200,000-370,000 บาท
นายสมปอง ติมุลา และ น.ส.รัตนาภรณ์ ครั่งฝา สองสามีภรรยา ชาวบ้านเนินสง่า ต.โคกปี่ฆ้อง อาชีพค้าขายทั่วไป เปิดเผยว่า คนที่มาติดต่อให้ใช้บัตรประชาชนใบเดียวเพื่อรับเงินแสนนั้นคือ ญาตินักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ที่มีรั้วบ้านติดกันเมื่อช่วงเดือน ส.ค.64 โดยสอบถามว่า อยากได้เงินแสนมั้ย ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหรือจ่ายค่าส่วนต่างอื่น ๆ ไม่เกิน 7 วัน ได้รับเงินแน่นอน และจะมีใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินแค่ 3 เดือน แต่ไม่ต้องไปสนใจ ก่อนมาเก็บบัตรประชาชนไปโดยอ้างว่า จะนำไปเช็คเครดิตบูโร ผ่านไปไม่กี่วันก็ติดต่อกลับมาว่า เครดิตของนายสมปองและน.ส.รัตนาภรณ์ผ่านแล้ว ให้ไปสแกนใบหน้า โดยนัดหมายให้ไปสแกนใบหน้าภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่บ้านเขาแผงม้า จ.นครราชสีมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ปทส.จับชาวบ้านฆ่าเลียงผา สัตว์สงวนหายาก บริเวณพื้นที่เทือกเขาตาง๊อก อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
- รับสมัครเลือกตั้ง สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก พรรคประชาชนส่งทีมลงสมัครหลายพื้นที่ ส่วนอดีต สจ.บางคนไม่ลงเพราะต้องลงเลือกตั้งท้องถิ่น
- เปิดสะพานข้ามแยกสระขวัญชั่วคราวช่วงเทศกาลปีใหม่ จ.สระแก้ว ส่วนเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนเปิดใช้เส้นทางช่วงกลางคืน
ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลดังกล่าว แอบอ้างกับผู้เสียหายว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารมาดำเนินการให้ แต่ผ่านไปเกือบ 2 เดือน กลับมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า นายสมปองเป็นหนี้ธนาคาร 260,000 บาท ส่วนภรรยา น.ส.รัตนภรณ์ เป็นหนี้อีก 240,000 บาท รวมแล้วทั้งครอบครัวของนายสมปอง เป็นหนี้ธนาคารนี้ถึง 500,000 บาท โดยไม่ได้รับเงินกู้แม้แต่บาทเดียว
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านคลองน้ำใส หมู่ 2 อีก 1 ราย เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 เห็นว่า เป็นโอกาสที่จะได้รับเงินจากโครงการกู้เงินธนาคารที่มีชื่อเสียง และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ตนเองจึงตัดสินใจชักชวนญาติพี่น้องกว่า 10 คน เข้าร่วมโครงการกู้เงินดังกล่าว โดยตนยอมรับว่า ได้รับเงินสด 85,000 บาท ไม่ผ่านบัญชีธนาคาร ก่อนจะตัดสินใจ ขอตรวจสอบหนี้ของตัวเองกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาสระแก้ว แต่กลับพบว่า ตนเองเป็นหนี้กับธนาคารกสิกรไทยถึง 330,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีหนังสือแจ้งชำระหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงรานว่า ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวประมาณ 10 ราย ได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนี้ โดยพนักงานสอบสวนเตรียมทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคาร ขอตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของชาวบ้านในแต่ละบัญชี หลังมีการใช้เลขบัตรประชาชนของชาวบ้าน ไปสมัครกู้เงินจากแอพธนาคารฯ จนเกิดปัญหาในจังหวัดสระแก้วแล้ว จำนวนประมาณเกือบ 100 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ธ.กสิกรไทย สาขาสระแก้ว โดยสอบถามผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยฯ กล่าวยอมรับว่า เรื่องนี้ธนาคารได้แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานใหญ่แล้ว ไม่สามารถให้รายละเอียดกับสื่อมวลชนในพื้นที่ได้ แต่ก็ยอมรับว่า ขบวนการนี้ทำกันเป็นขบวนการใหญ่และเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งมีรายงานว่า การสอบสวนในคดีนี้อยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สภ.ปางสีดา ซึ่งเป็นพื้นที่มีการระบุว่า มีการจ่ายเงินให้กับชาวบ้าน ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางสีดา อยู่ระหว่างเชิญตัวญาตินักการเมืองท้องถิ่นมาสอบสวนรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งล่าสุด ตำรวจสามารถติดต่อญาตินักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ได้แล้ว
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: