สระแก้ว – ผู้การฯ สระแก้ว ระบุ ทีมสอบสวนเตรียมออกหมายจับ ทีมภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอเมืองสระแก้ว หลังร่วมกับพวกไม่ต่ำกว่า 3 คน เรียกเก็บบัตรประชาชนจากชาวบ้านเกือบ 30 คน นำไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นเคพลัส ของธนาคารกสิกรไทย แต่ชาวบ้านกลับไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน พร้อมทั้ง ยังมีใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินงวดละ 7,000-10,000 บาท ยืนยัน คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มแน่นอน โดยจะให้ชาวบ้านไปแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหายักยอกทรัพย์ฯ
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังชาวบ้านในพื้นบ้านคลองน้ำใส และบ้านเจ็ดหลัง ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อและเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสระแก้ว และ สภ.ปางสีดา โดยระบุว่า ได้ถูกภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง พร้อมกับลูกสาว ได้ติดต่อขอเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านเพื่อนำไปยื่นกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่น เคพลัส ของธนาคารกสิกรไทย โดยอ้างว่า ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ก็สามารถกู้เงินหลักแสนบาท ออกมาจากธนาคารที่น่าเชื่อถือได้ และได้ติดต่อชาวบ้านให้ไปสแกนใบหน้าภายในรีสอร์ท ในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และที่เขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านก็ได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคาร เพื่อให้ผ่อนชำระเงินต้น รายละตั้งแต่ 300,000-500,000 บาท และต้องผ่อนชำระงวดละ 7,000-10,000 บาท ขณะที่ทีมภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ได้จ่ายเงินกู้ดังกล่าว ให้กับชาวบ้านเพียงคนละประมาณ 10,000 บาท แต่ต้องเป็นหนี้จำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้แต่งตั้ง พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ดูแลคดีรวมถึงในเรื่องกฎหมาย เบื้องต้นคดีนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ปางสีดา เจ้าของพื้นที่ ได้สอบปากคำชาวบ้านที่เดือดร้อนและรวบรวมพยานหลักฐาน มีความคืบหน้าไปมาก โดยขณะนี้เสียหายแจ้งความซึ่งพบกระทำความผิดสำเร็จแล้ว มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน เนื่องจากมีใบแจ้งหนี้ให้ชำระเงินต้นจากธนาคาร ตั้งแต่ 330,000 บาท, 370,000 บาท, 260,000 บาท และ 240,000 บาท แต่ได้รับเงินจากกลุ่มบุคคลที่ชักชวนให้กู้เงินดังกล่าว ไม่เต็มจำนวน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ชาวบ้านผู้เสียหายทั้ง 4 คน ไปแจ้งความเพิ่มเติมกับทีมภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในข้อหายักยอกทรัพย์อีก 1 ข้อหา และยืนยันว่า คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มอย่างแน่นอน แต่ขอเวลาตำรวจทำงานอีกสักระยะ
ข่าวน่าสนใจ:
ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวอีกว่า ตำรวจกำลังเตรียมออกหมายจับ กลุ่มบุคคล กลุ่มภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ที่ชักชวนชาวบ้านกู้เงิน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3 คน ตามประมวลกฎหมาย ฉบับที่ 17 พ.ศ.2547 มาตรา 269/5 คือ ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในมาตรา 269/7 คือ ถ้าการกระทำดังกล่าวในหมวดนี้ เป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ กึ่งหนึ่ง ส่วนฐานความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหานี้ โดยตำรวจสระแก้วได้ประสานไปยังต้นสังกัดของธนาคารกสิกรไทยแล้ว ทางฝ่ายกฎหมายของธนาคาร จะลงมาให้ข้อมูลกับตำรวจในเร็ว ๆ นี้ เช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านใน ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว ที่มีเขตติดต่อกับ ต.โคกปี่ฆ้อง ซึ่งถูกหลอกให้กู้เงินในลักษณะแบบเดียวกัน และมีผู้เสียหายอีกไม่ต่ำกว่า 50 คนนั้น พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน มีชาวบ้านถูกเก็บบัตรประชาชนเอาไปกู้เงิน ในลักษณะแบบเดียวกับชาวบ้านใน ต.โคกปี่ฆ้อง และผ่านกระบวนการสแกนใบหน้าแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีชาวบ้านได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคาร เพราะหลังจากเกิดเหตุเก็บบัตรประชาชนไปได้ไม่นาน ฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของตำรวจนายหนึ่ง ที่ถูกชาวบ้านอ้างว่า เก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านไป ซึ่งการเข้าตรวจค้นในครั้งนั้น ตำรวจพบบัญชีรายชื่อชาวบ้านจำนวนมาก มีทั้งชาวบ้านใน จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี แต่ยังไม่มีชาวบ้านได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคาร จึงทำให้ในส่วนคดีความของพื้นที่นี้ จึงยังไม่มีผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตาม กรณีปัญหาดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านใน ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว จำนวนเกือบ 30 คน ได้รวมตัวกันไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรปางสีดา ว่าได้ถูกภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เมืองสระแก้ว เก็บบัตรประชาชนเอาไปกู้เงิน ผ่านแอปพลิเคชั่น เคพลัส ของธนาคารกสิกรไทย โดยกลุ่มภรรยาอดีตนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง จ่ายเงินให้ชาวบ้านคนละไม่กี่หมื่นบาท แต่พอผ่านไปได้ไม่นาน ชาวบ้านกลับได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคาร และเป็นหนี้คนละหลายแสนบาท จึงรวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อและเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสระแก้วและ สภ.ปางสีดา โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ ยอมรับว่า สาเหตุเพราะอยากจะได้เงินก้อนและได้ง่าย ๆ โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว แต่ความจริงมีโอกาสถูกหลอกลวงได้ง่าย ๆ
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: