สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ ตชด.12 สนธิกำลัง ฉก.ตาพระยา สกัดจับชาวกัมพูชาลักลอบเข้าไทย 38 คน กลางดึก ที่บริเวณถนนสายบ้านทัพสยาม-บ้านนางาม หมู่ 15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 23 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารประจำกองกำลังชายแดนเข้มงวดกวดขัน ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่กองร้อย ฉก.ตชด.3 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.กก.ตชด.12 ,พ.ต.ท.คณิศร์ ผิวขาว ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.3 และเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ร.ต.อ.สาธิต สร้างนานอก ผบ.มว.ฯ ปรท.ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.3 เป็นหัวหน้าชุด พร้อมกำลังพล รวม 6 นาย สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา , สภ.ตาพะยา และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันจับกุมชาวกัมพูชา จำนวน 38 คน เป็นชาย 29 คน หญิง 9 คน ได้ที่บริเวณถนนสายบ้านทัพสยาม-บ้านนางาม หมู่ 15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันออกลาดตระเวนและทำการดักซุ่มบริเวณพื้นที่เพ่งเล็งที่สำคัญในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรและการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ จนกระทั่งเวลา ประมาณ 00.20 น.ตรวจพบกลุ่มบุคคลทั้ง 38 คน ที่บริเวณถนนสายบ้านทัพสยาม–บ้านนางาม หมู่ 15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพื่อขอทำการตรวจสอบ และจากการตรวจสอบพบเป็นชาวกัมพูชา ตรวจสอบเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักร ไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ฉก.ตชด.3 ซึ่งจากการสอบถาม นายเปา เพิน ชาวกัมพูชา ที่สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ เป็นล่ามแปลภาษา ยอมรับว่า พวกตนได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรทางช่องทางธรรมชาติจริง โดยจะเข้าไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ,ทำการเกษตร ,ค้าขาย และรับจ้างทั่วไปในพื้นที่ตอนใน
ข่าวน่าสนใจ:
โดยชาวกัมพูชาทั้ง 38 คน รับว่า ต้องการไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร 14 คน ,ชลบุรี 10 คน ,สมุทรปราการ 3 คน ,ระยอง 11 คน โดยมีผู้นำทางเป็นชาวกัมพูชาไม่ทราบชื่อ พาเดินเท้าจากประเทศกัมพูชามายังฝั่งไทย มีค่าใช้จ่ายในการหลบหนีเข้ามาทำงาน จำนวน 6,500 บาทต่อคน โดยบางรายได้ทำการจ่ายเงินค่ามัดจำล่วงหน้าไปแล้ว 2,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนและบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้ทราบว่าได้กระทำผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาทราบว่า มีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ เพราะถ้อยคำของผู้ถูกจับอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้เป็นทนายความได้ มีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับและสถานที่ที่ควบคุม ในโอกาสแรกผู้ต้องหารับทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาและสิทธิผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้นดีแล้ว จึงให้การว่า รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่า พวกตนได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรตามช่องทางธรรมชาติจริง จึงได้นำผู้ถูกจับกุมทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
——————————
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: